2โจ๋ต่อยผู้หญิงนอนคุก! ศาลไม่ให้ประกันชี้พฤติกรรมไม่เกรงกลัวกฎหมาย

เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. ที่ศาลจังหวัดตลิ่งชัน ถ.สวนผัก พนักงานสอบสวนสน.บางเสาธง ได้นำตัว นายธนากร ภิรมย์ อายุ 23 ปี และ นายณัฐวุฒิ รำพึงกิจ อายุ 20 ปี ผู้ต้องหาคดีร่วมกันทำร้ายร่างกายคนขับแท็กซี่และบุตรสาว มายื่นคำร้องผัดฟ้องฝากขังต่อศาลเป็นเวลา 6 วัน ตั้งแต่วันที่ 21-26 ธ.ค.นี้ เนื่องจากกระบวนการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น

คดีนี้ พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาทั้งสองร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น จนเป็นอันตรายแก่ร่างกายและจิตใจผู้อื่น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295  ซึ่งระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมทั้งแจ้งข้อหานายธนากร ทำให้เสียทรัพย์ ตามมาตรา 358 ด้วยซึ่งระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เนื่องจากไปทุบรถแท็กซี่เสียหายคิดเป็นมูลค่าประมาณ 30,000 บาท

ทั้งนี้ ศาลพิจารณาคำร้องแล้ว อนุญาตให้ผัดฟ้องฝากขังผู้ต้องหาตามคำร้องได้

ขณะที่ ญาติผู้ต้องหาทั้งสองได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ขอปล่อยชั่วคราว

แต่ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ผู้ต้องหาทั้งสองคนได้ทำร้ายผู้อื่นในที่สาธารณะ แม้ขณะเกิดเหตุมีเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ด้วยแต่ก็ไม่เกรงกลัว จึงเป็นพฤติกรรมอุกอาจ ไม่เกรงกลัวกฎหมาย ในชั้นนี้จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาทั้งสอง

ต่อมาเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ก็ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งสองไปคุมขังไว้ที่เรือนจำพิเศษธนบุรีต่อไป 

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในวันนี้ฝ่ายผู้เสียหายพร้อมญาติและเพื่อน ได้เดินทางมายังศาลจังหวัดตลิ่งชัน เพื่อยื่นคำร้องคัดค้านการให้ประกันตัวผู้ต้องหา เช่นเดียวกันที่พนักงานสอบสวน สน.บางเสาธง ก็ได้ระบุไว้ในท้ายคำร้องผัดฟ้อง เนื่องจากพฤติกรรมของผู้ต้องหากระทำการโดยอุกอาจ

โดยกรณีนี้ เกิดเหตุเมื่อคืนวันที่ 18 ธ.ค.ที่ผ่านมา ระหว่างที่ นายกฤตภาส รอดหลัก คนขับแท็กซี่ ได้ขับรถมาเพื่อจะมารับ น.ส.พานทอง และ น.ส.กชกร บุตรสาว ซึ่งกลับจากการดูคอนเสิร์ต "วงค็อกเทล" ระหว่างนั้นมีกลุ่มวัยรุ่นขี่รถจักรยานยนต์ มาชนท้ายรถแท็กซี่ของนายกฤตภาส ทำให้คนขี่รถจักรยานยนต์ซึ่งเป็นเพื่อนของผู้ต้องหาได้รับบาดเจ็บ  โดยนายธนากร และนายณัฐวุฒิ ผู้ต้องหา เมื่อเห็นเหตุการณ์ก็เกิดความโกรธแค้น จึงเข้ามารุมทำร้ายชกต่อย นายกฤตภาส คนขับแท็กซี่ และลูกสาวทั้งสองที่อยู่ในอาการร้องไห้หวาดกลัว จนได้รับบาดเจ็บ  และยังทุบรถแท็กซี่ได้รับความเสียหายด้วย  ก่อนหลบหนีไป  

ซึ่งต่อมากลุ่มผู้เสียหาย ได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.บางเสาธง กระทั่งมีกระแสสังคม กดดันให้ตำรวจตามจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองมารับโทษ โดยผู้ต้องหาทั้งสองได้เข้ามอบตัว พนักงานสอบสวนจึงแจ้งข้อหาดำเนินคดี