posttoday

กองปราบลุยสอบคดีสลาก30ล้านที่กาญจนบุรี ชี้อาจมีการทำผิดเป็นขบวนการ

12 ธันวาคม 2560

กองปราบฯ ส่งเจ้าหน้าที่ลุยสืบคดีสลาก30ล้านที่กาญจนบุรี พร้อมอีก4คดีที่เป็นลักษณะเดียวกัน เผยอาจมีการวางแผนกระทำผิดอย่างเป็นขบวนการ

กองปราบฯ ส่งเจ้าหน้าที่ลุยสืบคดีสลาก30ล้านที่กาญจนบุรี พร้อมอีก4คดีที่เป็นลักษณะเดียวกัน เผยอาจมีการวางแผนกระทำผิดอย่างเป็นขบวนการ

เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. ร.ต.ท.จรูญ วิมูล อดีตข้าราชการตำรวจ ผู้นำสลากกินแบ่งรัฐบาลงวดประจำวันที่ 1 ธ.ค.2560 ซึ่งถูกรางวัลที่ 1 ได้เงินรางวัล 30 ล้านบาท ไปขึ้นเงิน แต่ต่อมา นายปรีชา ใคร่ครวญ ข้าราชการครูโรงเรียนมัธยมชื่อดังแห่งหนึ่งใน จ.กาญจนบุรี ออกมากล่าวอ้างว่าเป็นเจ้าของสลากและมีการแจ้งความดำเนินคดีที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง รักษาราชการแทน รองผู้บังคับการกองปราบปราม (รรท.รองผบช.ก.) และ พ.ต.อ.ไมตรี ฉิมเฉิด รักษาราชการแทน ผู้บังคับการกองปราบปราม (รรท.ผบก.ป.) เพื่อร้องขอความเป็นธรรมในคดี โดย พ.ต.อ.ไมตรี ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนกองกำกับการ 5 กองปราบปราม (กก.5 บก.ป.) สอบปากคำไว้เป็นหลักฐานในเบื้องต้น โดยใช้เวลาในการสอบสวนนานเกือบ 2 ชั่วโมง

พ.ต.อ.ไมตรี กล่าวว่า ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนเดินทางลงพื้นที่ไปตรวจสอบรายละเอียดคดีนี้แล้ว เนื่องจากจากคดีมีความสลับซับซ้อนและเป็นที่น่าสนใจของประชาชน กองปราบฯจึงต้องเข้าไปตรวจสอบเพราะเป็นคดีที่เข้าข่ายที่กองปราบฯสามารถที่จะดำเนินคดีได้ และหากพิจารณาแล้วว่าจะดำเนินคดีเองก็จะเสนอต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) พิจารณาอนุมัติให้โอนสำนวนคดีมา ขณะนี้กำลังพิจารณาว่าจะต้องเรียกใครมาสอบสวนเพิ่มเติมบ้างโดยเฉพาะคู่กรณีอีกฝ่ายซึ่งอยู่กับการพิจารณาของพนักงานสอบสวน

ทั้งนี้ พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. ยังได้สั่งการให้กองปราบฯ เข้าไปตรวจสอบคดีที่เกี่ยวกับการแย่งการเป็นเจ้าของสลากกินแบ่งรัฐบาลในคดีอื่นๆด้วย ซึ่งพบว่ามีคดีที่จะต้องเข้าไปตรวจสอบอีกจำนวน 4 คดี ประกอบไปด้วยคดีที่เกิดขึ้นในพื้นที่ อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ , อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี, เขตประเวศ กรุงเทพฯ  และในพื้นที่ อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี รวมทั้งหมดที่ตรวจสอบอยู่ในขณะนี้ 5 คดี

ด้าน พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) กล่าวว่า ได้สั่งให้สืบสวนขยายผลหาข้อเท็จจริงในคดีการแย่งชิงความเป็นเจ้าของสลากกินแบ่งรัฐบาล ทั้งในคดีที่เกิดขึ้นใหม่และคดีลักษณะเดียวกันที่เกิดขึ้นในอดีต เพราะเชื่อว่าแต่ละคดีน่าจะมีเบื้องหลังที่ซับซ้อนและเป็นไปได้ที่อาจจะมีการวางแผนการกระทำความผิดอย่างเป็นขบวนการ จึงได้ให้กองบังคับการปราบปรามสืบสวนหาข้อเท็จจริงในทุกคดีว่ามีความเชื่อมโยงกันหรือไม่ ซึ่งหากพบว่าเข้าข่ายความผิดใดก็ให้ดำเนินคดีตามกฎหมายกับฝ่ายนั้นทันที โดยให้พนักงานสอบสวนพิจารณาฐานความผิดอย่างรอบคอบและให้ความเป็นธรรมกับทุกคน

มีรายงานว่า ขณะนี้ พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผกก. 5 บก.ป. สั่งการให้ชุดสืบสวนของ กก.5 บก.ป. เร่งรวบรวมหลักฐานในคดีที่อดีตตำรวจเข้าร้องเรียนกับตำรวจกองปราบปรามเพื่อหารายละเอียดข้อเท็จจริงของคดีซึ่งเกิดเหตุในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี คาดว่าจะหาข้อสรุปได้ในเร็วๆนี้ รวมถึงในพื้นที่ อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี ในขณะที่ พ.ต.อ.นิรันดร์ ปิตะกาศ ผกก.3 บก.ป. พร้อมด้วยชุดสืบสวนได้เตรียมกำลังลงพื้นที่เพื่อหาข้อมูลเชิงลึกในคดีแย่งกรรมสิทธิล็อตเตอรี่ใน อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ และ อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี  ซึ่งคล้ายกับคดีใน จ.กาญจนบุรี นอกจากนี้ชุดสืบสวนของ พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผกก.1 บก.ป. ก็ให้เข้าตรวจสอบคดีแย่งชิงล็อตเตอรี่ในพื้นที่ เขตประเวศ กทม. ด้วย

ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนได้นำพา ร.ต.ท.จรูญ เดินทางยื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) เพื่อให้มีการตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัยกับนายตำรวจระดับสูง 2 นาย ที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน กรณีเรียก ร.ต.ท.จรูญ ไปพบที่บ้านพักเพื่อเจรจาให้ยอมตกลงระงับข้อพิพาท รวมทั้งกรณีที่มีการอายัดเงินในบัญชีธนาคารโดยไม่ถูกต้อง และมีการให้สัมภาษณ์ในลักษณะชี้นำการสอบสวน โดยมี พ.ต.อ.ยสวินท์ หรรษมนต์ รองผู้บังคับการตำรวจสันติบาล 3 (รองผบก.ส.3) ในฐานะนายตำรวจเวรอำนวยการเป็นผู้รับหนังสือแทน

นายษิทรา กล่าวว่า มีนายตำรวจ 2 นายเข้าไปเกี่ยวกันกับคดีนี้ รายแรกมีการไปให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนในลักษณะบิดเบือนข้อเท็จจริง กล่าวหา ร.ต.ท.จรูญ ว่า จำสถานที่ เวลา คนขายไม่ได้ ทั้งที่ตนเองก็มีสำนวนการสอบสวนอยู่ในมือ  นอกจากนี้มีการเรียก ร.ต.ท.จรูญ ไปพบที่บ้านพักซึ่งเป็นที่มิดชิดเพื่อเจรจาพูดคุยเกี่ยวกับคดีอาญา ให้ยอมรับผิด ซึ่งกรณีนี้เป็นคดีลักทรัพย์ ซึ่งเป็นความผิดที่ยอมความไม่ได้ มีการพูดจาในทำนองว่าหากยอมรับผิด ร.ต.ท.จรูญ จะได้รับส่วนแบ่งอย่างไร หากไม่ยอมจะได้รับโทษอย่างไร ตนมองว่ากรณีนี้เป็นกรณีที่นายตำรวจระดับสูงลงมายุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน มีการให้สัมภาษณ์ว่าจะต้องดำเนินคดีแน่นอน ฝ่ายนี้กระทำผิดแน่นอน โดยไม่มีการรับฟังพยานหลักฐานจากฝ่ายตนก่อน ทั้งนี้ได้นำพยานหลักฐานเป็นเทปบันทึกคำให้สัมภาษณ์ของนายตำรวจคนดังกล่าวที่ไปออกรายโทรทัศน์ 3 รายการ มีการให้สัมภาษณ์ที่สับเปลี่ยนไปมาไปมาไม่ถูกต้องตามความเป็นจริง มอบให้กับ ผบ.ตร.ด้วย

"ผมคิดว่าการกระทำของตำรวจนายดังกล่าวไม่เหมาะสม มีการชี้นำการสอบสวน ว่าเรื่องนี้ต้องขึ้นศาลแน่นอนทั้งที่ร้อยเวรยังไม่เรียกให้ไปรับทราบข้อกล่าวหา จะสั่งฟ้องหรือสั่งไม่ฟ้อง แต่หัวหน้าตำรวจบอกไปก่อนแล้วว่าจะต้องขึ้นศาล อย่างนี้ร้อยเวรก็ทำงานลำบาก เท่ากับว่าต้องมีการแจ้งข้อกล่าวหา และก็ฟ้อง ร.ต.ท.จรูญ ไปตามที่นายตำรวจระดับสูงกล่าวถึง" นายษิทรา กล่าว

นายษิทรา กล่าวว่า อีกราย คือ นายตำรวจที่ทำหนังสือไปอายัดเงินในบัญชีธนาคาร ซึ่งไม่ชอบด้วยการสอบสวน เพราะการอายัดบัญชีต้องมีการสอบสวนให้ครบถ้วนกระบวนความเสียก่อนว่าบุคคลที่ถูกอายัดบัญชีเป็นผู้กระทำผิดจริง เป็นการอายัดบัญชีโดยไม่เปิดโอกาสให้คู่กรณีได้แก่ต่าง

ด้าน ร.ต.ท.จรูญ กล่าวว่า การเรียกไปพูดคุยกับนายตำรวจระดับสูงคนดังกล่าว ไม่ใช่ลักษณะของการข่มขู่ให้ยอมรับผิด แต่เป็นการพูดในทำนองว่าหากตนไม่ยอมรับจะต้องขึ้นศาลจะต้องติดคุกติดตาราง นายตำรวจคนดังกล่าวพยายามให้ตนยอมรับว่าเก็บสลากได้ ส่วนเรื่องรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับแม่ค้าขายสลากตนบอกตลอดว่าไม่สามารถจำใบหน้าได้ แต่รายละเอียดเกี่ยวกับสถานที่ เวลา ตนจำได้ทั้งหมด  ซึ่งตนยืนยันว่าตนซื้อสลากดังกล่าวมาจริงๆ ตนยืนยันข้อเมท็จริงตรงนี้มาโดยตลอด  จึงอยากให้ ผบ.ตร. ให้ความเป็นธรรมกับตนเพื่อทำความจริงให้ปรากฏ