posttoday

แม่ทัพภาค4สั่งจนท.เอาผิดคนแพร่คลิปบิดเบือนทหารโดนซ้อม

12 ธันวาคม 2560

กอ.รมน.แจงคลิปอ้างทหารโดนซ้อมไม่ใช่เหตุการณ์ในไทย ชี้เป็นการบิดเบือนหวังดิสเครดิตแม่ทัพภาค4 สั่งเร่งสืบหาตัวคนเผยแพร่แล้ว

กอ.รมน.แจงคลิปอ้างทหารโดนซ้อมไม่ใช่เหตุการณ์ในไทย ชี้เป็นการบิดเบือนหวังดิสเครดิตแม่ทัพภาค4 สั่งเร่งสืบหาตัวคนเผยแพร่แล้ว

เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. พันเอก ปราโมทย์  พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เปิดเผยว่า ตามที่มีการแชร์คลิปพร้อมข้อความ “ช่วยกันแชร์ด้วยครับ กระจายให้มากที่สุด คนไทยจะได้เห็นกับตา ค่ายฝึกของ พลโท ปิยวัฒน์  นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 คนนี้มันโหดร้ายขนาดไหน” ซึ่งต่อมาพบว่ามีการแชร์คลิปดังกล่าวในสื่อสังคมออนไลน์อย่างกว้างขวาง ดังนั้น เพื่อให้ได้รับทราบข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง กองทัพภาคที่ 4 / กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4   จึงขอชี้แจงเพื่อสร้างความเข้าใจ ดังนี้

1. จากการตรวจสอบคลิปที่มีการแชร์มี 2 คลิป โดยคลิปแรก เป็นภาพการทำร้ายทหารด้วยการเฆี่ยนตีและเตะต่อย จากการตรวจสอบพบว่าเป็นคลิปเก่าที่เคยนำมาแชร์เมื่อ พฤษภาคม 2560 พิจารณาจากสถานที่, เครื่องแต่งกายและภาษา สามารถยืนยันได้อย่างชัดเจนว่า ไม่ใช่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย และคลิปที่ 2 เป็นการรวบรวมภาพการทำร้ายร่างกายทหารที่เกิดขึ้นในอดีตหลายเหตุการณ์  ในห้วงปี 2554 - 2556  ซึ่งทุกเหตุการณ์ กองทัพได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน โดยได้ลงทัณฑ์ ผู้ที่ร่วมกระทำความผิดทางวินัยทหาร และประมวลกฎหมายอาญาทหาร ทั้งจำขัง พักราชการ และปลดออก จากราชการแล้วหลายราย และบางรายอยู่ในระหว่างดำเนินคดี จึงเห็นได้ว่าคลิปที่นำมาเผยแพร่ดังกล่าวไม่ได้อยู่ในช่วงที่ พลโท ปิยวัฒน์ นาควานิช ดำรงตำแหน่ง แม่ทัพภาคที่ 4 (ตั้งแต่ ตุลาคม 2559 – ปัจจุบัน) แต่อย่างใด

2. การเผยแพร่คลิปดังกล่าว พิจารณาได้ว่าเป็นความพยายามที่จะทำลายความน่าเชื่อถือและทำลายชื่อเสียงของ พลโท ปิยวัฒน์  นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 ผู้ที่ได้อุทิศตนปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 4 ด้วยความทุ่มเท เสียสละ มีคุณธรรม จริยธรรม จนเป็นที่ยอมรับจากทุกภาคส่วน ซึ่งผลจากการปฏิบัติงานดังกล่าว อาจทำให้บุคคลบางคน หรือบางกลุ่มเสียประโยชน์ จึงพยายามทำทุกวิถีทาง เพื่อทำลายความน่าเชื่อถือในรูปแบบต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผลกระทบจากพฤติกรรมดังกล่าว อาจทำให้พี่น้องประชาชนเสื่อมศรัทธา และทำลายภาพลักษณ์ของกองทัพอีกด้วย

ทั้งนี้ กองทัพบกและกองทัพภาคที่ 4 ไม่เคยปฏิเสธหรือเพิกเฉยต่อทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต โดยได้กำหนดนโยบายที่ชัดเจนในเรื่องการฝึกและการลงทัณฑ์ทหาร โดยห้ามมิให้มีการทำร้ายร่างกายและซ้อมทรมานทหารกองประจำการ หรือผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างเด็ดขาด หากใครฝ่าฝืนก็จะมีมาตรการลงโทษขั้นสูงสุดทั้งวินัยทหาร และถูกดำเนินคดี ตามกฎหมายโดยไม่มีข้อยกเว้น

3. แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้สั่งการให้หน่วยที่เกี่ยวข้องทำการตรวจสอบบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องและรู้เห็นในการเผยแพร่คลิปดังกล่าว ขณะนี้พอจะทราบเบาะแสในเบื้องต้นแล้ว โดยจะใช้มาตรการทางกฎหมายดำเนินการต่อไป พร้อมกับขอให้พี่น้องประชาชนใช้ดุลยพินิจในการบริโภคข้อมูลข่าวสารอย่างมีสติ เพื่อไม่ให้ตกเป็นเครื่องมือของผู้ไม่หวังดี และให้หยุดการแชร์ข้อมูล เพราะอาจเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ที่มีโทษตามกฎหมาย