posttoday

อธิบดีกรมคุกชี้วาสนา-ปริญญาอาจเข้าข่ายพักโทษ

08 ธันวาคม 2560

อธิบดีกรมราชทัณฑ์แจงข้อกฎหมายรูปแบบพักโทษตามหลักเกณฑ์ "วาสนา / ปริญญา" อาจเข้าข่ายได้รับการพักโทษ

อธิบดีกรมราชทัณฑ์แจงข้อกฎหมายรูปแบบพักโทษตามหลักเกณฑ์ "วาสนา / ปริญญา" อาจเข้าข่ายได้รับการพักโทษ

เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.ที่กระทรวงยุติธรรม (ยธ.)พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า กรณี พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ อดีตประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และนายปริญญา นาคฉัตรีย์ อดีตกกต. ซึ่งต้องโทษจำคุก 2 ปีในคดีจัดการเลือกตั้งเอื้อประโยชน์พรรคไทยรักไทย ปี 2549  จะมีคุณสมบัติเข้าเกณฑ์พักการลงโทษในฐานะผู้ต้องขังชรามีอายุ 70 ปี ขึ้นไป หลังรับโทษจำคุกมาแล้ว 2 ใน 3 ของโทษจำคุก 2 ปี ซึ่งหลักการปล่อยตัวผู้ต้องขังก่อนครบกำหนดตามคำพิพากษามีอยู่ 3 กรณี แบ่งเป็น

1.เป็นกฎหมายพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษในห้วงระยะเวลาเป็นมงคลของแผ่นในช่วงต่างๆซึ่งเป็นทำในภาพรวม และต้องมีกระบวนการรอบคอบรัดกุม มีกรรมการคัดเลือกส่งเข้าคณะรัฐมนตรีพิจารณา (ครม.) เสนอต่อไป เพราะเป็นการปล่อยกลุ่มใหญ่ แต่ขณะนี้ยังไม่มี

2.พักการลงโทษกรณีปกติ โดยมีกลไกในการคัดเลือกอนุมัติเห็นชอบจากคณะกรรมการพักการลงโทษ ซึ่งจะมีปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นประธาน มีผู้แทนศาล อัยการสูงสุด สตช. กรมราชทัณฑ์ กรมคุมประพฤติ กระทรวงสาธารณสุข ทั้งหมดจะร่วมกันพิจารณา โดยกลุ่มที่เข้าข่ายได้รับการพักโทษจะต้องรับโทษมาแล้ว 1ใน 3 เช่นโทษ 3 ปี ต้องจำคุกมาแล้ว 1 ปี และเหลือโทษไม่เกิน 1 ใน 3 หรือต้องรับโทษที่เหลืออีกไม่เกิน 1 ปี

และ 3.พักการลงโทษกรณีพิเศษ เป็นอำนาจของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมจะเป็นผู้อนุมัติ โดยผ่านการกลั่นกรองจากคณะกรรมการพักการลงโทษของชุดที่มีปลัดกระทรวงยุติธรรมเป็นประธาน การพักโทษนี้อาจเป็นเพื่อความปรองดอง ความมั่นคง
 
อย่างไรก็ตาม ยังมีนักโทษที่เข้าข่ายได้รับการพักโทษคือผู้ต้องขังอายุ 70 ปีขึ้นไปและพิการ หรือป่วยเป็นมะเร็งระยะ 4 สามารถได้รับการพิจารณาพักโทษเช่นกัน ทั้งหมดเป็นดุลพินิจของผู้มีอำนาจ โดยมีรูปแบบของมติคณะกรรมการการลงโทษ โดยดูคุณสมบัติทั่วไปแล้วเข้าหลักเกณฑ์