posttoday

"วิน-นักเรียน" คลิปทะเลาะวิวาทขอโทษให้อภัยกันแล้ว

19 พฤศจิกายน 2560

ตำรวจเรียกวินมอไซค์และนักเรียนในคลิปทะเลาะวิวาทกลางถนนมาตกลง สุดท้ายสองฝ่ายยอมขอโทษและให้อภัยกัน ตร.แนะอย่าใช้อารมณ์ในการขับรถ

ตำรวจเรียกวินมอไซค์และนักเรียนในคลิปทะเลาะวิวาทกลางถนนมาตกลง สุดท้ายสองฝ่ายยอมขอโทษและให้อภัยกัน ตร.แนะอย่าใช้อารมณ์ในการขับรถ

เมื่อวันที่ 19 พ.ย.  พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รักษาราชการแทนรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจฯ เปิดเผยว่า กรณีคลิปกลุ่มผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างรุมทำร้ายนักเรียนอาชีวะบริเวณสามเสนนั้น เป็นเหตุการณ์ที่เด็กนักเรียนในคลิปขับรถจักรยานยนต์ปาดหน้ามอเตอร์ไซค์รับจ้างคันหนึ่ง แล้วเกิดการมองหน้ากัน จากนั้นต่างฝ่ายได้แยกย้ายกันไป จนกระทั่งเวลาต่อมาสองฝ่ายขับมอเตอร์ไซค์มาเจอกันอีกครั้ง โดยมอเตอร์ไซค์รับจ้างซึ่งเป็นผู้ใหญ่ได้พูดตำหนิเด็กนักเรียนเรื่องมารยาทการขับรถ จนทำให้ทั้งคู่เกิดชกต่อยกันและทำให้เพื่อนนักเรียนซึ่งอยู่บริเวณ 4 คน เข้ามาช่วยรุมทำร้ายวินมอเตอร์ไซค์จนได้รับบาดเจ็บจมูกหัก

แต่ด้วยบริเวณที่เกิดเหตุอยู่ห่างที่ตั้งวินมอเตอร์ไซค์เพียง 30 เมตร ทำให้เพื่อนวินมอเตอร์ไซค์ที่เห็นเหตุการณ์รีบเข้ามาช่วยเพื่อน จนทำให้เด็กนักเรียน 4 คน ที่เข้ามาตอนแรกวิ่งหนีเข้าโรงเรียนไป เหลือเพียงเด็กนักเรียนเจ้าของรถมอเตอร์ไซค์คันเกิดเหตุถูกวินมอเตอร์ไซค์รุมทำร้าย จนมีอาการฟกช้ำตามตัว

หลังเกิดเหตุตำรวจ สน.สามเสน ติดตามตัวผู้ร่วมก่อเหตุสองฝ่ายพร้อมผู้ปกครองนักเรียนและผู้อำนวยการโรงเรียน มาฟังการสอบปากคำ เบื้องต้นพบว่าเป็นการทำร้ายกันทั้งสองฝ่าย โดยวินมอเตอร์ไซค์ได้รับบาดเจ็บมากกว่า แต่เห็นแก่อนาคตเด็กจึงไม่ติดใจเอาความ ส่วนฝ่ายเด็กนักเรียนสำนึกผิด สุดท้ายทั้งสองฝ่ายยอมขอโทษและให้อภัยซึ่งกันและกัน พร้อมสัญญาจะไม่ก่อความวุ่นวายหลังจากนี้อีก

รรท. รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า ทางทางกฎหมายกรณีดังกล่าวเข้าข่ายเป็นความผิดต่อแผ่นดิน ตำรวจจำเป็นต้องดำเนินคดีสองฝ่าย โดยแบ่งเป็น 2 กรณีคือ เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ทำร้ายผู้ใหญ่และผู้ใหญ่ทำร้ายเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี เบื้องต้นตำรวจยังไม่สามารถตั้งข้อหากับทางนักเรียนได้ เนื่องจากได้ส่งตัววินมอไซค์ที่จมูกหักไปตรวจไปตรวจร่างกาย ซึ่งต้องรอผลก่อนว่าฝ่ายวินมอเตอร์ไซค์ที่ถูกเด็กนักเรียนทำร้ายได้รับบาดเจ็บสาหัสและจำเป็นต้องรักษาตัวเกิน 20 วันหรือไม่

อย่างไรก็ตามฝากเตือนประชาชนว่า การใช้รถใช้ถนนบางครั้งอาจเกิดเหตุกระทบกระทั่ง จึงอยากให้ทุกคนมีสติรู้จักให้อภัยกันอย่าหวังเอาชนะกันบนท้องถนน เพราะคนที่ชนะอย่างแท้จริงคือคนที่ได้กลับไปใช้ชีวิตกับครอบครัวโดยไม่มีเรื่องคดีความให้ทุกข์ร้อนใจ นอกจากนั้นฝากแจ้งประชาชนผู้เห็นเหตุการณ์ ว่าบางครั้งหากไม่ได้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด การนำคลิปวีดีโอไปเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าตัวผู้ถูกถ่าย อาจทำให้คนที่อยู่ในคลิปตกเป็นจำเลยสังคมและได้รับความเสื่อมเสีย จึงแนะนำว่าเจ้าทุกข์สามารถแจ้งความดำเนินคดีกับผู้เผยแพร่วิดีโอคนแรก รวมถึงผู้ที่แชร์คลิปต่อได้ในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาด้วยภาพ มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 2 แสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ จึงขอผู้ที่ชื่นชอบโพสต์และแชร์หยุดการกระทำดังกล่าวเสีย