posttoday

จี้ปลัดสธ.คนใหม่แจงความคืบหน้าขรก.ปล้ำลูกจ้างหญิง

10 พฤศจิกายน 2560

องค์กรผู้หญิง จี้ปลัดสธ.คนใหม่ ชี้แจงความคืบหน้า คดีข้าราชการหื่นลวนลามลูกจ้างหญิง ภายหลังเรื่องเงียบ เหยื่อยังไม่ได้รับความเป็นธรรม

องค์กรผู้หญิง จี้ปลัดสธ.คนใหม่ ชี้แจงความคืบหน้า คดีข้าราชการหื่นลวนลามลูกจ้างหญิง ภายหลังเรื่องเงียบ เหยื่อยังไม่ได้รับความเป็นธรรม

เมื่อวันที่ 10พ.ย.60 นายจะเด็จ  เชาวน์วิไล  ผู้อำนวยการมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล  กล่าวถึงกรณีที่ลูกจ้างหญิงกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ออกมาทวงถามความคืบหน้าคดีที่ถูกข้าราชการสธ.ลวนลามคุกคามทางเพศ ว่า เรื่องนี้ทางมูลนิธิฯและสังคมจับตามองมาตลอด ก่อนหน้านี้อดีตปลัดพูดชัดว่า เรื่องนี้ต้องมีผลที่ชัดเจน มีการลงโทษ ก่อนที่ท่านจะเกษียณเมื่อก.ย.ที่ผ่านมา อีกทั้งท่านรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญ ย้ำชัดว่าต้องทำให้โปร่งใส เกิดความชัดเจน ไม่ให้รู้สึกว่ามีความเคลือบแคลงใจ แต่จนถึงตอนนี้เรื่องกลับเงียบ จนผู้เสียหายไม่สบายใจ และอาจมีการช่วยเหลือเพื่อให้พ้นผิด หรือ ทำให้สำนวนอ่อน

“ที่เห็นได้ชัดคือ ผู้เสียหายออกมาพูดแบบนี้ นั่นแปลว่า กระทรวงยังไม่ได้ให้ความสำคัญในการเยียวยา เขายังไม่ได้รับความเป็นธรรม กระทรวงไม่มีการเข้าไปพูดคุยให้ผู้เสียหายเกิดความสบายใจ หรือรู้สึกว่าเกิดการคุ้มครองปกป้องสิทธิ เดิมทีคณะกรรมการได้ตั้งไว้สองโจทย์ คือ สอบสวนวินัยร้ายแรง และเอาผิดกับข้าราชการที่ล็อบบี้  ดังนั้นเรื่องนี้กกระทรวงต้องมีความคืบหน้า เกิดความชัดเจนได้แล้ว  อย่าทำให้สังคมมองกระทรวงว่าปาหี่ หรือทำอะไรอยู่ ซึ่งมูลนิธิฯกังวลว่า จะกลับไปเป็นเหมือนเดิม เกิดการวิ่งเต้นอะไรอยู่หรือไม่ ดังนั้นปลัดคนปัจจุบันควรติดตามเรื่องนี้ และต้องออกมาชี้แจงว่าการสอบสวนวินัยร้ายแรงไปถึงขั้นตอนไหน คนที่วิ่งเต้นล๊อบบี้มีความผิดอย่างไร เพราะหลักฐานชัดเจน ไม่ควรปล่อยให้มันเงียบไปแบบนี้ เพราะจะนำมาสู่ความสงสัยของสังคมได้  อย่างไรก็ตาม มูลนิธิฯขอให้กำลังใจผู้เสียหาย และพร้อมสนับสนุน หากรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ขอให้แจ้งมาที่มูลนิธิฯ” นายจะเด็จ กล่าว

ด้านนางสาวธารารัตน์ ปัญญา นักศึกษาชั้นปีที่4 มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง  ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เสียหายที่ลุกขึ้นมาต่อสู้กรณีที่ถูกรุ่นพี่ในมหาวิทยาลัยล่วงละเมิดทางเพศ จนทำให้ผู้ก่อเหตุถูกลงโทษ  กล่าวว่า ขอเป็นอีกหนึ่งเสียง ที่อยากให้กำลังใจผู้เสียหายรายนี้ ว่าอย่ากลัวที่จะลุกขึ้นมาปกป้องสิทธิ ขอให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด และให้มั่นใจในกระบวนการยุติธรรมว่ามีอยู่จริง ส่วนกระทรวงสาธารณสุขเอง ควรออกมาแสดงความรับผิดชอบ เร่งดำเนินคดีให้เร็วที่สุด อย่าให้ผู้เสียหายเกิดความรู้สึกโดดเดี่ยว หรือไม่ได้รับความยุติธรรม เพราะลำพังการต้องออกมาบอกเล่าเรื่องราวที่ต้องพบเจอก็แย่พอแล้ว หลังจากนี้จะจับตาดูว่าคดีนี้จะเป็นอย่างไร จะสร้างบรรทัดฐานให้กับสังคมหรือไม่