posttoday

อธิบดีสถ.ลั่นเด็กไทยต้องไม่จมน้ำ

09 พฤศจิกายน 2560

อธิบดีสถ.แจ้ง4แนวทางป้องกันเด็กจมน้ำให้ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กอปท.นำไปบรรจุในกิจกรรมการเรียนรู้

อธิบดีสถ.แจ้ง4แนวทางป้องกันเด็กจมน้ำให้ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กอปท.นำไปบรรจุในกิจกรรมการเรียนรู้

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เปิดเผยว่า ปัจจุบันจะพบเห็นข่าวเกี่ยวกับปัญหาเด็กจมน้ำเป็นจำนวนมาก ซึ่งปรากฏอัตราเฉลี่ยปีละกว่า 600 คน โดยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ที่เสียชีวิตจากการจมน้ำ และมักเกิดจากปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม เช่น ไม่มีรั้วรอบแหล่งน้ำเพื่อแบ่งแยกเด็กออกจากแหล่งน้ำ การจัดให้มีพื้นที่เล่นที่ไม่เหมาะสมให้แก่เด็ก และการที่ผู้ปกครอง ผู้ดูแลเด็ก และเด็กไม่มีความรู้ในการกู้ชีพหรือใช้วิธีปฐมพยาบาลแบบผิดวิธี กรมฯ จึงเห็นว่าเรื่องดังกล่าวมีความจำเป็นอย่างมากที่ต้องมีการบรรจุเรื่องการป้องกันการจมน้ำในเด็กปฐมวัยศูนย์พัฒนาเด็กเล็กไว้ในกิจกรรมการเรียนรู้ของเด็ก ทั้งนี้ ก็เพื่อให้ครูผู้ดูแลเด็กในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กได้สอนให้เด็กในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กรู้จักแหล่งน้ำเสี่ยง

กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ได้แจ้งแนวทางต่างๆ เกี่ยวกับการป้องกันเด็กจมน้ำในเด็กปฐมวัย ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีศูนย์พัฒนาเด็กเล็กใช้เป็นแนวทางในการดำเนินการทั้งสิ้น 4 แนวทาง ดังนี้

1. การใช้สระว่ายน้ำหรืออ่างเล่นน้ำในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก โดยให้ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กที่มีสระว่ายรูปแบบต่าง มีการสอนให้เด็กปฐมวัยรู้จักอันตรายจากการจมน้ำ รู้จักหลีกเลี่ยงการเล่นใกล้แหล่งน้ำเสี่ยง การตะโกนขอช่วยเหลือเมื่อเพื่อนจมน้ำ เป็นต้น และหากศูนย์พัฒนาเด็กเล็กใดที่มีศักยภาพสามารถจัดหลักสูตรสอนว่ายน้ำเพื่อเอาชีวิตรอดสำหรับเด็กปฐมวัยได้อย่างปลอดภัย โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านการว่ายน้ำดูแลเด็กอย่างใกล้ชิดและทั่วถึง ก็สามารถดำเนินการจัดการเรียนการสอนว่ายน้ำเพื่อเอาชีวิตรอดให้กับเด็กปฐมวัยในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กได้

2. เกณฑ์ความปลอดภัยสำหรับการป้องกันการจมน้ำในเด็กปฐมวัย ก็ให้ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กดำเนินการจัดสภาพแวดล้อมในศูนย์ มีการเฝ้าระวังดูแลปกป้องคุ้มครองเด็ก และการสอนเด็กให้รู้จักกฎแห่งความปลอดภัย สอดคล้องตามเกณฑ์ความปลอดภัยสำหรับการป้องกันการจมน้ำในเด็กที่สำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้กำหนดไว้ เช่น จัดสภาพแวดล้อมรอบตัวเด็กให้ปลอดภัย ไม่ให้เด็กอยู่ใกล้แหล่งน้ำโดยลำพัง และการสร้างรั้วกั้นไม่ให้เด็กเข้าใกล้แหล่งน้ำได้ หรือแยกพื้นที่เด็กเล่นออกจากแหล่งน้ำ รวมถึงครูผู้ดูแลเด็กต้องได้รับการฝึกปฐมพยาบาลเด็กจมน้ำที่ถูกวิธีด้วย

3. การสอนให้เด็กรู้จักแหล่งน้ำเสี่ยง โดยเน้นการสอน “อย่าใกล้ อย่าเก็บ อย่าก้ม” นั่นคือ อย่าเดินใกล้แหล่งน้ำ อย่าลงไปในแหล่งน้ำเพื่อเก็บสิ่งของต่างๆ อย่าก้มลงไปดูในภาชนะใส่น้ำหรือแหล่งน้ำต่างๆ

และ 4. การสอนให้ครูผู้ดูแลเด็ก และเด็กรู้จักการช่วยเหลือคนตกน้ำหรือจมน้ำ โดยเน้นหลัก “ตะโกน โยน ยื่น” ที่สอนให้เด็กตะโกนขอความช่วยเหลือเมื่อตกอยู่ในอันตราย หรือมีเพื่อนจมน้ำ และการสอนให้โยนหรือยื่นอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ตกน้ำ

การส่งเสริมให้เด็กปฐมวัยได้รับการส่งเสริมพัฒนาการในด้านต่างๆนั้น ถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาเด็กปฐมวัย ซึ่งต้องทำควบคู่กับการส่งเสริมสมรรถนะของเด็กปฐมวัยว่าเด็กในแต่ละช่วงอายุสามารถทำอะไรได้บ้าง พร้อมจัดกระบวนการเพื่อส่งเสริมให้เด็กแต่ละช่วงอายุได้รับการพัฒนาสมรรถนะที่เหมาะสมตามวัย และสอดคล้องกับธรรมชาติของเด็ก โดยมุ่งเน้นการพัฒนาเด็กอย่างเป็นองค์รวมทั้งความสามารถในการเคลื่อนไหว และสุขภาวะทางกาย พัฒนาการด้านสังคม ด้านอารมณ์ ด้านความคิดและสติปัญญา ด้านภาษา ด้านจริยธรรม รวมถึงด้านการสร้างสรรค์ของเด็ก ซึ่งเราต้องร่วมกันให้ความรู้ในเรื่องสมรรถนะเด็กแก่พ่อแม่ ผู้ปกครอง รวมถึงบุคลากรผู้สอน ให้มีความรู้อย่างถูกต้องด้วย