posttoday

อัยการพาแม่-ลูกร้องยธ.เยียวยาหลังถูกรถรพ.สต.ขอนแก่นชนปี58

20 ตุลาคม 2560

รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด พาแม่-ลูกชายวัย 3ขวบถูกกระบะรพ.สต.ขอนแก่นพุ่งชนเมื่อปี 58 ร้องรองปลัดยธ.ขอรับเงินเยียวยากองทุนยุติธรรม พร้อมจัดหาทนาย-ค่าใช้จ่ายฟ้องคดี

รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด พาแม่-ลูกชายวัย 3ขวบถูกกระบะรพ.สต.ขอนแก่นพุ่งชนเมื่อปี 58 ร้องรองปลัดยธ.ขอรับเงินเยียวยากองทุนยุติธรรม พร้อมจัดหาทนาย-ค่าใช้จ่ายฟ้องคดี

เมื่อวันที่ 20 ต.ค. นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด นำนางปวีณา หาทรัพย์ เเละ ด.ช.ปราบปราม เจิมขุนทด หรือน้องปาล์ม อายุ 3 ขวบ ที่พิการเนื่องจากถูกรถของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านใหม่ อ.สีชมพู จ.ขอนแก่น ขับชนเมื่อปี 2558 เป็นเหตุให้ด.ช.ปราบปราม มีอาการชาตั้งเเต่ราวนมมาถึงช่วงล่าง ไม่มีความรู้สึก และเดินไม่ได้ อีกทั้งเวลาขับถ่ายไม่มีความรู้สึกต้องใส่เเพมเพิร์ตเเละปัสสาวะทางสายยาง เข้าพบกับนายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เพื่อขอความช่วยเหลือเงินเยียวยาตามสิทธิจากกองทุนยุติธรรม

นายโกศลวัฒน์ กล่าววว่า หลังเกิดเหตุด.ช.ปราบปรามบาดเจ็บสาหัส และต้องรักษาอย่างต่อเนื่อง จึงมาปรึกษานายธวัชชัยเพื่อขอความเป็นธรรม และพิจารณาในส่วนเงินเยียวยา ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนหากเกิดเหตุในลักษณะดังกล่าว ขอให้ปรึกษาหน่วยงานรัฐ เช่น สำนักงานอัยการ หรือกระทรวงยุติธรรม เพื่อรับเงินเยียวยาตามสิทธิของตัวเอง

ด้านนายธวัชชัย กล่าวว่า จากการพูดคุยสอบถามเบื้องต้นพบว่าเหตุเกิดเมื่อปี 58 ซึ่งคนขับรถของโรงพยาบาลเป็นอาสาสมัครได้ขับรถกระบะ ทะเบียน บว 4942 ขอนแก่น ชนกับจักรยานยนต์ที่สามีเเละลูกชายของนางปวีณาขับมา  ซึ่งคดีอาญาศาลมีคำพิพากษาว่าคนขับรถกระบะมีความผิด ให้จำคุกคนขับ 6 เดือน ปรับ 3,000 บาท แต่ให้รอลงอาญา 2 ปี ผู้เสียหายจึงฟ้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่งต่อกระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข เรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ซึ่งมีการไกล่เกลี่ยกันมาหลายครั้ง แต่ไม่สามารถหาข้อสรุปที่ชัดเจนได้

"กระทรวงยุติธรรมได้รับเรื่องไว้ เบื้องต้นผู้เสียหายจะได้ค่ารักษาพยาบาลจ่ายตามจริงไม่เกิน 40,000 บาท , ค่าฟื้นฟูสภาร่างกาย ไม่เกิน 30,000 บาท, ค่าขาดประโยชน์ในการทำมาหากิน จ่ายตามจริงวันละ 300 บาท ระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี และค่าอื่นๆที่คณะกรรมการกองทุนเห็นสมควรจ่าย ไม่เกิน 30,000 บาท แต่เงินช่วยเหลือทั้งหมดจะได้เต็มจำนวนหรือไม่ต้องตรวจสอบว่าได้รับเงินช่วยเหลือจากส่วนอื่นๆ หรือไม่ "รองปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าว

นายธวัชชัย กล่าวอีกว่า ส่วนคดีอาญาถือว่ามีคำพิพากษาสิ้นสุดแล้ว แต่คดีแพ่งทราบว่าในช่วยบ่ายวันนี้อัยการจะพาผู้เสียหายเข้าพบนพ.เจษฎา โชคดำรงสุข ปลัดกระทรวงสาธารณสุข  เพื่อเจรจาเรื่องคดีเเละค่าเสียหาย ทางกระทรวงยุติธรรมจะส่งเจ้าหน้าที่ไปร่วมหารือด้วย  เบื้องต้นทราบว่าทางกระทรวงสาธารณสุขยินดีจะช่วยเหลืออย่างเต็มที่อยู่แล้ว แต่หากไม่สามารถเจรจาตกลงกันได้ กองทุนยุติธรรมก็ยินดีช่วยเหลือจัดหาทนายและค่าใช้จ่ายในการฟ้องคดี

ภาพ http://www.js100.com/en/site/news/view/47042