posttoday

ทนายโอ๊คยื่นดีเอสไอขอระงับแจ้งข้อกล่าวหาคดีฟอกเงินกรุงไทย

03 ตุลาคม 2560

ทนายความ ยื่นหนังสือดีเอสไอ ขอความเป็นธรรมคดีฟอกเงินกรุงไทยขอให้ระงับแจ้งข้อกล่าวหา ยกคำสั่ง คตส. ชี้คดีนี้สิ้นสุดไปแล้ว ยัน"พานทองแท้" มาพบตามหมายเรียก

ทนายความ ยื่นหนังสือดีเอสไอ ขอความเป็นธรรมคดีฟอกเงินกรุงไทยขอให้ระงับแจ้งข้อกล่าวหา ยกคำสั่ง คตส. ชี้คดีนี้สิ้นสุดไปแล้ว ยัน"พานทองแท้" มาพบตามหมายเรียก

เมื่อวันที่ 3 ก.ย.ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายชุมสาย ศรียาภัย ทนายความของ นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณ ชินวัตร เดินทางมายื่นหนังสือต่อ พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองบริหารคดีพิเศษ ดีเอสไอ เพื่อขอให้ระงับการแจ้งข้อกล่าวหาฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน ธนาคารกรุงไทยปล่อยกู้ บริษัท อาร์เคโปรเฟสชั่นแนล จำกัด (เครือกฤษดามหานคร)

นายชุมสาย กล่าวว่า วันนี้เดินทางมา ดีเอสไอ เพื่อขอระงับการแจ้งข้อกล่าวหาเนื่องจากการรับเช็ค 10 ล้านบาท และ 26 ล้านบาท โดยคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) มีมติให้ดำเนินคดีกับ พานทองแท้ เพียงข้อหารับของโจร เท่านั้น และ ไม่มีข้อหาฟอกเงิน จึงตกไป รวมทั้ง คสต. อาศัยอำนาจของ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และ คณะกรรมการธุรกรรม ตามคำสั่ง สำนักงาน คปค. ฉบับที่ 30 ข้อ 5 ผลคือไม่มีความผิดฐานฟอกเงินและเห็นว่า ผิดเพียงข้อหารับของโจร ตาม ป.วิ อาญา มาตรา 147 ให้ยุติการสอบสวนในประเด็นนี้ จึงขอให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ระงับการสอบสวนในคดีที่คำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องคดีไปแล้ว และขอเปลี่ยนพนักงานสอบสวนให้กลับไปเป็น ปปง. เหมือนเดิม  เพราะมองว่าการทำงานดีเอสไอไม่เป็นธรรม และเฉพาะเจาะจงแต่ นายพานทองแท้ ในการแจ้งข้อหา

"สำหรับประเด็น ดีเอสไอ ออกหมายเรียก นายพานทองแท้ พร้อมพวกรวม 4 คน ได้แก่ นางกาญจนาภา หงษ์เหิน เลขานุการส่วนตัวของ คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร มารดา นายพานทองแท้ และ นายวัยชัย หงษ์เหิน สามีของ นางกาญจนาภา และ นางเกศินี จิปิภพ มารดาของ นางกาญจนาภา ให้มารับทราบข้อกล่าวหาดังกล่าว ในวันที่ 24 ต.ค.นี้ ยังไม่ทราบขอตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่แต่ยืนยันหากได้รับหนังสือ นายพานทองแท้  จะมาพบพนักงานสอบสวนด้วยตัวเองเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ส่วนจะขอเลื่อนการเข้าพบยังไม่ระบุ ขอให้ได้หนังสือเรียกก่อน" นายชุมสาย กล่าว

ด้าน พ.ต.ต.วรนันท์ เปิดเผยว่า หลังจากเคยรับเรื่องขอความเป็นธรรมเรื่องดังกล่าวแล้ว แต่วันนี้ยื่นหนังสือเพื่อขอระงับการแจ้งข้อกล่าวหาจึงต้องรีบส่งมอบให้พนักงานสอบสวนพิจารณาข้อกฎหมายว่าจะสามารถดำเนินการอย่างไร สำหรับการเปลี่ยนพนักงานสอบสวนจากดีเอสไอเป็น ปปง. นั้นไม่สามารถทำได้เนื่องจากเป็นคดีอาญา ซึ่ง ดีเอสไอ มีหน้าที่ในการสอบสวน ส่วน ปปง. รับผิดชอบในคดีแพ่ง อย่างไรก็ตาม การออกหมายเรียกสามารถระงับการแจ้งข้อกล่าวหาของผู้ร้องหรือไม่ต้องให้พนักงานสอบสวนพิจารณาแต่ต้องอยู่ในกรอบของกฎหมาย

ขณะที่ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า พนักงานสอบสวนมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะแจ้งข้อกล่าวหา แต่ก็ต้องออกหมายเรียกให้ทางผู้ถูกกล่าวหาเข้าชี้แจงข้อเท็จจริง และนำหลักฐานมาชี้แจง ซึ่งพนักงานสอบสวนก็พร้อมตรวจสอบคำร้องและให้ความเป็นธรรมจากทุกฝ่าย อย่างไรก็ตามในขณะนี้ยังไม่ได้รับการตอบรับจาก นายพานทองแท้ ว่าจะเข้าพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียกหรือไม่ แต่หากวันที่ 24 ต.ค.นี้ นายพานทองแท้ ไม่เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน หรือมีการขอเลื่อน พนักงานสอบสวนก็จะพิจารณาถึงเหตุผลความจำเป็นก่อน และจะพิจารณาไปตามกระบวนการออกหมายเรียกและหมายจับตามความเหมาะสมต่อไป ทั้งนี้ เชื่อว่าพนักงานสอบสวนจะดำเนินการส่งสำนวนต่ออัยการให้ยื่นฟ้องศาลทันในอายุความที่หมดในช่วงปลายปี 2561 อย่างแน่นอน