posttoday

ดีเอสไอเรียก"โอ๊ค"พร้อมพวกรับทราบข้อกล่าวหาคดีฟอกเงิน24ต.ค.

02 ตุลาคม 2560

ดีเอสไอเรียก "พานทองแท้" พร้อมพวกเข้ารับข้อกล่าวหาฟอกเงินกรุงไทย 24 ต.ค.นี้ ให้สิทธิผู้ถูกกล่าวหาโต้แย้งได้ทุกประเด็น

ดีเอสไอเรียก "พานทองแท้" พร้อมพวกเข้ารับข้อกล่าวหาฟอกเงินกรุงไทย 24 ต.ค.นี้ ให้สิทธิผู้ถูกกล่าวหาโต้แย้งได้ทุกประเด็น

รายงานข่าวจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แจ้งว่าภายหลังคณะพนักงานสอบสวนคดีฟอกเงินจากการทุจริตอนุมัติเงินกู้ของธนาคารกรุงไทยให้กับกลุ่มกฤษดาธานนท์ มีมติให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน  (ปปง.)ส่งผู้แทนเข้าให้ปากคำเพิ่มเติม เพื่อออกหมายเรียกนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กับพวกรวม 4 คน เข้ารับทราบข้อหาฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน โดยหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนได้ส่งหมายเรียกถึงนายพานทองแท้ นายเกศินี จิปิภพ นางกาญจนาภา หงส์เหิน เลขานุการส่วนตัวของคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร  และนายวันชัย หงส์เหิน โดยกำหนดให้เข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 24 ต.ค.นี้

"หลังจากนั้นผู้ต้องหาในคดีมีสิทธิตามกฎหมายที่จะนำพยานหลักฐานเข้าโต้แย้งแก้ข้อกล่าวหาได้ในทุกประเด็น หรือจะไม่ให้การในชั้นสอบสวนก็ได้ ทั้งนี้เพื่อให้พนักงานสอบสวนนำไปประกอบการพิจารณาว่าจะสรุปความเห็นสั่งฟ้องหรือไม่โดยคดีนี้ดีเอสไอต้องสรุปสำนวนให้แล้วเสร็จและส่งให้อัยการพิจารณาก่อนที่คดีจะครบอายุความ 15 ปี ภายในกลางปี 2561"แหล่งข่าวจากดีเอสไอระบุ

สำหรับการสอบสวนคดีนี้เป็นผลมาจากคำพิพากษาในคดีทุจริตอนุมัติเงินกู้ของธนาคารกรุงไทย ซึ่งปรากฎหลักฐานในเส้นทางการเงินว่า นายพานทองแท้ นางเกศินี นางกาญจนาภา และนายวันชัย เข้าไปเกี่ยวข้องกับการรับเงินจำนวน 10 ล้านบาท และ 26 ล้านบาทจากนายวิชัย กฤษดาธานนท์ และนายรัชดา กฤษดาธานนท์ ผู้บริหารบริษัทกฤษดามหานคร โดยก่อนหน้านี้ปปง.ได้เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดีเอสไอดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องกับธุรกรรมการเงินจำนวน 10 ล้านบาท และ 26 ล้านบาท ซึ่งกลุ่มของนายพานทองแท้ได้เข้าให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนในฐานะพยานไปแล้ว แต่พนักงานสอบสวนไม่เชื่อในหลักฐานที่พยานนำเข้าชี้แจง ประกอบกับพฤติการณ์แห่งคดีเข้าองค์ประกอบความผิดของกฎหมายฟอกเงิน จึงมีมติให้ออกหมายเรียกเข้ารับทราบข้อกล่าวหาในคดีอาญา