กรมที่ดินแจงปมให้เอกชนใช้ที่ดินสาธารณะระยอง

กรมที่ดินชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีการอนุญาตให้บริษัทเอกชน (IRPC) ใช้ประโยชน์จากที่ดินสาธารณะ   ตำบลบ้านแลง จังหวัดระยอง

นายประทีป กีรติเรขา อธิบดีกรมที่ดิน ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมบ้านแลง จังหวัดระยอง ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ขอให้มีการตรวจสอบการใช้อำนาจของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและคณะ ในการใช้อำนาจที่ขัดต่อระเบียบกระทรวงมหาดไทย กรณีอนุญาตให้ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน)       ใช้ประโยชน์จาก “ที่ดินสาธารณะตำบลบ้านแลง” สรุปได้ว่า

การดำเนินการขอใช้ประโยชน์ในที่ดินสาธารณะ ต้องปฏิบัติตามมาตรา 9 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน และระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วย หลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการอนุญาตตามมาตรา 9 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2543 โดยมีขั้นตอน สรุปได้ดังนี้

(1) ผู้ขอยื่นคำขอพร้อมหลักฐาน ต่อ สำนักงานที่ดินจังหวัด/สาขา หรือนายอำเภอ

(2) สำนักงานที่ดินจังหวัด/สาขา หรือนายอำเภอ มอบหมายเจ้าหน้าที่ไปทำการรังวัด ชันสูตรสอบสวน  ในที่ดิน

(3) ประชุมรับฟังความคิดเห็นของราษฎรในพื้นที่

(4) ขอความเห็นจากที่ประชุมสภาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

(5) ประกาศการขออนุญาตประกอบกิจการในที่ดินของรัฐให้ทราบมีกำหนด 30 วัน

(6) แจ้งหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาให้ความเห็น

(7) ประชุมคณะกรรมการพิจารณาเรื่องราวอนุญาตประกอบกิจการ ตามมาตรา 9 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน (ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน)

(8) จังหวัดส่งเรื่องให้กรมที่ดินพิจารณาเสนอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเพื่อขออนุมัติ

(9) ส่งเรื่องการอนุมัติให้ผู้ว่าราชการจังหวัดออกหนังสืออนุญาต ไม่เกิน 5 ปี (นับแต่วันออกใบอนุญาต) โดยผู้ขอเสียค่าตอบแทนเป็นรายปี ให้แก่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

อธิบดีกรมที่ดิน กล่าวต่อไปว่าสำหรับประเด็นเรื่องการคัดค้านของกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมบ้านแลง จังหวัดระยอง ได้แก่ เรื่องปัญหาการใช้ประโยชน์จากที่ดินสาธารณะ ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และปัญหา    การระบายน้ำ รวมถึงข้อขัดข้องในการมีส่วนร่วมตัดสินใจของราษฎร เป็นข้อเท็จจริงและพฤติการณ์สำคัญ    ที่จะได้รายงานให้กระทรวงมหาดไทยแจ้งต่อผู้ว่าราชการจังหวัดระยองในฐานะพนักงานเจ้าหน้าที่ เพื่อประกอบการพิจารณาดำเนินการทางการปกครองตามอำนาจหน้าที่ นอกจากนี้ กรณีดังกล่าวได้มีการฟ้องคดีต่อศาลปกครองระยองเพื่อขอให้เพิกถอนหรือยกเลิกใบอนุญาตการใช้ประโยชน์ในที่สาธารณประโยชน์ดังกล่าวแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครองระยอง