สาวเผยประสบการณ์เกือบตายเพราะยาลดความอ้วน-ฝากทุกคนเลิกโง่ตกเป็นทาสยา
หญิงสาวเผยประสบการณ์เกือบเสียชีวิตเพราะกินยาลดความอ้วน พร้อมฝากเตือนคนไม่อยากตายอย่ากิน
หญิงสาวเผยประสบการณ์เกือบเสียชีวิตเพราะกินยาลดความอ้วน พร้อมฝากเตือน
เมื่อวันที่ 24 ก.ย. สังคมออนไลน์ให้ความสนใจเรื่องราวของหญิงสาวที่ได้รับผลกระทบจากยาลดความอ้วน ซึ่งถูกเผยเเพร่ผ่านเฟซบุ๊กชื่อ Ssaddy Lee
เธอระบุว่า ขอเตือนคนที่กินหรือคิดจะกิน ถ้าไม่อยากตายต้องอ่าน ตนเป็นอีกคนที่อยากลดน้ำหนัก เบื้องต้นอยากลดแค่เฉพาะส่วนขา เพราะส่วนบนไม่ได้อ้วนมาก ด้วยความขี้เกียจอยากผอมไว เลยลองซื้อยาลดน้ำหนักมากิน
ช่วงแรกก็รู้สึกใจสั่นนิดหน่อย จนหมด 1 ชุด ไม่มีไรเกิดขึ้น จึงเปลี่ยนมากินอีกแบบ หมดไปอีก 1 ชุด ไม่เห็นผลอะไรมากมาย จนกระทั่งเลิกกินเเละหยุดไปประมาณเกือบๆ หนึ่งปี
ต่อมาวันหนึ่ง ตัดสินใจซื้ออาหารเสริมลดน้ำหนักมากิน ได้รับผลกระทบรุนเเรงทันที วันเเรกมีอาการใจสั่นเป็นพักๆ นอนไม่หลับ
"นอนไม่หลับเลยนะ ไม่ง่วง หลับได้ 2-3 ชม.ต่อวัน แต่ไม่รู้สึกว่าง่วง แล้วก็ไม่หิวเลยย ไม่อยากกินอะไรเลย เราก็พยายามกินๆ เข้าไปบ้าง วันที่ 4 ถึงเริ่มนอนหลับได้บ้าง แต่ยังมีอาการใจสั่น เป็นงี้เรื่อยๆ กิน 6 วัน น้ำหนักลด 3 โลเลยจ้า จนวันที่ 7 กินยาปกติตอนเช้า ระหว่างวันก็มีใจสั่นเปนพักๆๆ ก็ไม่ได้สนใจไร คืดว่าปกติ อ้อคือเราปรึกษาคนขายแล้วเค้าบอกว่าเป็นอาการช่วงแรก ยามันกำลังปรับตัวกับร่างกาย แต่คิดว่าร่างกายเราคงรับยาไม่ไหวจริงๆ คืนนั้นแบบนอนๆอยู่ ใจสั่น หัวใจเต้นเร็วมากกกกกๆ เริ่มรู้สึกชาตามเท้าและมือ หลังขึ้นมาราวหัวไหล่ ท้ายทอย กกหูและสมอง หูดับทันที ตกใจมากคือรีบลุกเลย ไม่กล้านอนต่อกลัวมากๆๆ ให้แฟนพาไปรพ.ทันที"
หญิงสาวเล่าต่อว่า ตอนเจาะเลือดไปตรวจ เลือดหนืดข้นมาก ดูดแทบไม่ขึ้น ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมเลือดไม่ไหลเวียน สรุปคือ หมอบอกเรามีภาวะขาดน้ำขั้นรุนแรง สารอาหารในร่างกายไม่เหลือไปเลี้ยงเลือด หัวใจเต้นพริ้ว
"คนปกติเวลาตื่นเต้น ตกใจจะเต้น 100 ของเราเต้น 130/นาที ถ้ามาช้ากว่านี้หัวใจอาจจะวายได้ เพราะมันทำงานหนักจนเกินไปและที่ชาตามร่างกายคือเลือดมันไม่ไปเลี้ยง ทำให้ชา ปล่อยไว้นานคือเซลล์ตายเป็นอัมพาตได้ ลำไส้ไม่ทำงาน คือนิ่งเลย ไม่มีการย่อยอาหารใดๆ เราต้องฉีดยา calm down ให้หัวใจเต้นช้าลง และหมอต้องให้เติมน้ำเกลือและวิตามิน 6000 cc เพื่อทดแทนน้ำที่ขาด"
คุณหมอบอกว่าในยาลดน้ำหนักแทบทุกตัวมีสารประกอบที่อันตรายต่อร่างกายอยู่แล้ว เช่น phentermine มันจะกดประสาทลดความอยากอาหาร ไม่หิว กินน้อย เบื่ออาหาร / ยาไทรอยด์ฮอร์โมน เพื่อเผาผลาญพลังงาน แต่มันก็จะทำลายโปรตีนของกล้ามเนื้อ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ใจสั่น มียาขับปัสสะวะ ยาระบาย คือมันขับน้ำออกจากร่างกาย แต่จะเอาวิตามินและแร่ธาตุออกไปด้วยเช่นกัน เพื่อลดมวลในร่างกาย เวลาช่างน้ำหนักก็ดีใจอีดอก น้ำหนักลดลง พอร่างกายขาดน้ำสารอาหารมากๆ สมองก็เบลอ หัวใจทำงานผิดปกติ หัวใจวาย ตายจบ
อดีตผู้กินยาลดความอ้วนบอกต่อว่า ยาบางตัวมีสารแอมเฟตามีน คือกินเเล้วรู้สึกปากแห้งคอแห้ง มันบอกว่าให้จิบน้ำเยอะๆ นั่นแหละ ทำให้นอนไม่หลับ กระวนกระวาย รวมๆ แล้วไม่มีอะไรดีเลย
หมอบอกว่า โชคดีนะทานแค่ 7 วันแล้วอาการกำเริบหนักมาเลย รักษาทัน บางคนแข็งแรงต้านทานสารพวกนี้ไหวก็นานหน่อย 2-3 เดือน 5 เดือน บางคนเป็นปีๆ เพิ่งออกอาการก็มีเด้อ บางคนจะไปออกฤธิ์ตอนแก่ บางคนอาการหนักกว่านี้ก็มีมือสั่น ตัวสั่น จิตหลอน พูดคนเดียว คือรวมๆ แล้วยาลดความอ้วนทำให้เป็นบ้าได้
เธอทิ้งท้ายว่า ขอฝากไว้สำหรับคนที่อยากลดน้ำหนัก ถ้าไม่อยากตายอย่ากินยาลดความอ้วน เสียทั้งเงินทั้งสุขภาพ