posttoday

สมาพันธ์ชาวพุทธฯเผยอดีตพระมหาอภิชาตไม่ได้ถูกคุมขัง-อยู่ในที่ปลอดภัย

23 กันยายน 2560

สมาพันธ์ชาวพุทธฯเข้าพบเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องปมอดีตพระมหาอภิชาต เผยเจ้าหน้าที่ยืนยันไม่ได้ถูกคุมขัง อยู่ในที่ปลอดภัย และยังไม่มีการแจ้งข้อหา

สมาพันธ์ชาวพุทธฯเข้าพบเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องปมอดีตพระมหาอภิชาต เผยเจ้าหน้าที่ยืนยันไม่ได้ถูกคุมขัง อยู่ในที่ปลอดภัย และยังไม่มีการแจ้งข้อหา

เมื่อวันที่ 22 ก.ย.ที่ผ่านมา สมาพันธ์ชาวพุทธแห่งประเทศไทย ได้ออกประกาศ ฉบับที่ 1 เรื่อง ผลการเจรจากับเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบกรณีอดีตพระมหาอภิชาต ปุณฺณจนฺโท โดยระบุว่า สมาพันธ์ได้เข้าเจรจากับผู้เกี่ยวข้องกรณีอดีตพระมหาอภิชาต ปุณฺณจนฺโท และได้รับการยืนยันจากเจ้าอาวาสวัดเบญจมบพิตรว่า อดีตพระมหาอถิชาตได้ขอลาสิกขาเอง

ขณะที่เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบกรณีดังกล่าวยืนยันว่า อดีตพระอภิชาตไม่ได้ถูกคุมขังและขณะนี้อยู่ในที่ปลอดภัย รวมทั้งยังไม่มีการแจ้งข้อหา ซึ่งภายใน 2 วันนี้จะมีการเผยแพร่รายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้มากขึ้น

สำหรับประกาศของสมาพันธ์ชาวพุทธแห่งประเทศไทยมีรายละเอียดดังนี้

ในวันนี้ สมาพันธ์ชาวพุทธแห่งประเทศไทย นำโดย ร.ท.ผศ.ดร.บรรจบ บรรณรุจิ ประธานสมาพันธ์ชาวพุทธแห่งประเทศไทย ได้เดินทางไปที่วัดเบญจบพิตรฯ เพื่อไปเจรจา 3 ฝ่าย ประกอบด้วย

1.เจ้าอาวาสวัดเบญจมบพิตร

2.เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบกรณีอดีตพระมหาอภิชาต ปุณฺณจนฺโท

3.ตัวแทนสมาพันธ์ชาวพุทธแห่งประเทศไทย

ขอสรุปผลการเจรจา

เจ้าหน้าที่ ถามเจ้าอาวาสว่า ท่านอภิชาต ขอสึกเองหรือไม่ ท่านเจ้าอาวาส ตอบว่า ใช้ ท่านอภิชาต ขอสึกเอง

เจ้าหน้าที่ ก็ขอให้เราแจ้งต่อสาธารณชน ว่า มหาอภิชาต ขอสึกเอง

เราตอบว่า เราไม่สามารถรับรองได้ ว่า ขอสึกเอง ด้วยความเต็มใจ จนกว่าจะได้พบกับ ท่านอภิชาต ด้วยตนเองเสียก่อน

เราก็ขออนุญาต เข้าไปเยี่ยมท่าน เพื่อสอบถามเรื่องราวต่างๆ

เจ้าหน้าที่ยืนยัน สรุป ดังนี้

1.ยังไม่บอกว่า ตอนนี้อยู่พิกัดไหน

2.ให้รออีก 2 วัน แล้วทุกคนจะทราบเอง (เราจะรอถึงวันจันทร์)

3.ท่านอภิชาต ไม่ได้ถูกคุมขังแต่ประการใด และอยู่ในที่ปลอดภัย

4.ไม่มีการแจ้งข้อหาใดๆ

ข้อสรุปสำหรับเรา (ปรึกษากันเอง)

1.เราจะรออีก 2 วัน นั่นคือ ยอมรอถึงวันจันทร์ ไม่เกิน 18.00 น.

2.หากวันจันทร์ ยังไม่ทราบข่าวตามที่เจ้าหน้าที่แจ้ง เราจะขอเข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อเจรจาทั้งการปล่อยตัว และความปลอดภัยของท่านอภิชาต

3.ตั้งกองทุน ขึ้นมา โดยมีวัตถุประสงค์ 2 ประเด็นคือ

3.1 ช่วยเหลืออดีตพระมหาอภิชาต ปุณฺณจนฺโท ในเรื่องดังนี้

3.1.1 ช่วยเหลือทางด้านคดี (หากต้องใช้)

3.1.2 ช่วยเหลือเป็นค่ายังชีพ ขณะที่ลาสิกขาใหม่ๆ โดยไม่ทันตั้งตัว

3.1.3 อื่นๆ ที่สมควร

3.2 กิจกรรมเพื่อปกป้องพระพุทธศาสนา (อันนี้ใช้ระยะยาว ทั้งช่วยเหลือชาวพุทธวันหน้า หรือการทำงานเพื่อปกป้องพระพุทธศาสนา)