นานาชาติสนใจเทคนิคฝนหลวงตามศาสตร์พระราชา

มองโกเลีย-ศรีลังกาสนใจเทคนิคการทำฝนหลวงในไทยทำหนังสือขอพระราชทานความช่วยเหลือผ่านกองงานสมเด็จพระเทพฯ

นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยว่า จากสภาพอากาศแปรปรวนทำให้หลายประเทศสนใจและประสานมาเพื่อขอให้มีการสอนเทคนิคการทำฝนหลวงตามศาสตร์พระราชาซึ่งพระราชทานไว้ ซึ่งกรมจะทำหนังสือทูลเกล้าฯเพื่อทรงมีพระราชวินิจฉัยลงมา

"ล่าสุดประเทศมองโกลเลียได้มีหนังสือมายังกรมเรื่องขอพระราชทานการช่วยเหลือเรื่องการทำฝนผ่านกองงานสมเด็จพระเทพรัตน์ฯและอีกประเทศคือศรีลังกาที่ขอความช่วยเหลือซึ่งในส่วนของศรีลังกาจะออกค่าใช้จ่ายสำหรับกรณีนักวิชาการไทยเข้าไปดำเนินการช่วยเหลือ ซึ่งกรณีสองประเทศกรมต้องทำหนังสือขอพระราชานุญาต"นายสุรสีห์กล่าว

ทั้งนี้ กรมฝนหลวงฯมียุทธศาตร์20ปีที่จะเป็นศูนย์กลางการดัดแปรสภาพอากาศของโลกตามแนวทางศาสตร์พระราชาโดยภายใน5ปีจะเป็นผู้นำในอาเซียน ปัจจุบันกรมอยู่ระหว่างการเตรียมการในด้านการเพิ่มบุคคลากรทางการบินหรือนักบิน นักวิทยาศาสตร์  และการตั้งโรงเรียนหลักสูตรการบินฝนหลวง เพื่อรองรับการเป็นศูนย์กลางเผยแพร่ความรู้ด้านการดัดแปรสภาพอากาศเนื่องจากการบินฝนหลวงต่างจากหลักสูตรการบินทั่วไปโดยจะใช้สนามบินนครสวรรค์เป็นที่สอนฝึกบิน ส่วนศูนย์การเรียนรู้ศาสตร์ฝนหลวง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เพชรบุรีมอบที่ให้50ไร่เพื่อจัดสร้างศูนย์

ทั้งนี้หลังจากมีการตั้งกรมมา4ปี ปัจจุบัน กรมเดินหน้าจับมือกับสถาบันการศึกษา เหล่าทัพ เพื่อพัฒนาวิจัยเพื่อต่อยอดการทำฝนหลวงเพื่อจะสามารถทำฝนได้ทุกพื้นที่หรือทุกสภาพอากาศ  แม้สภาพอากาศปิดโดยการร่วมมืิอกับกองทัพในการพัฒนาอากาศยานไร้คนขับ และการทำจรวดทำฝนซึ่งงานวิจัยนี้คาดว่าจะเสร็จภายในปี61จากที่เริ่มมาตั้งแต่ปี59เป็นโครงการ3ปี ซึ่งทั้งสองชุดนี้จะใช้เมื่อสภาพอากาศปิดและหอบังคับการบินห้ามขึ้นทำการบิน หรือเป็นพื้นที่อันตรายเช่นชายแดนเป็นต้น  และอนาคตจะมีการศึกษาไปถึงการสลายพายุหรือเมฆฝนในพื้นที่ที่ไม่ต้องการฝน เพื่อลดความเสียหายจากอุทกภัย ประหยัดงบรัฐปีละหลายหมื่นล้านบาท