ปส.จับ"เอกอ้วน"เอเย่นต์ค้ายาส่งภาคใต้

ปส.เปิดปฎิบัติการ "ชัยยะ สยบไพรี 60/6 ผลพวงของความโลภ" บุกจับ "เอกอ้วน" อดีตผู้ต้องขังตัวการสั่งยาเสพติดส่งภาคใต้ พร้อมออกหมายจับเครือข่าย 11 คน

เมื่อวันที่ 12 ก.ย. ตำรวจปราบปรามยาเสพติด นำกำลังตำรวจพร้อมชุดสยบไพรีบุกจู่โจมจับนายจิรัฏฐ์ เพ็ญโสภณวิชญ์ ชื่อเดิม นายจรัล คำสด หรือ"เอกอ้วน" อดีตผู้ต้องขังคดียาเสพติด  หลังเจ้าหน้าที่สืบทราบว่า เอกอ้วน เป็นตัวการใหญ่ระดับสั่งการในเครือข่ายยาเสพติดทำหน้าที่รวบรวมออเดอร์ยาเสพติดจากภาคเหนือโดยจับได้ที่บ้านพักภายในหมู่บ้านหรูแห่งหนึ่งย่านนนทบุรี ซึ่งเป็น 1 ใน 43 จุด ตามปฎิบัติการ "ชัยยะ สยบไพรี 60/6 ผลพวงของความโลภ"

ทั้งนี้ ตำรวจได้แสดงตัวและพยายามเข้าไปในบ้านแต่ไม่มีผู้ลงมาเปิดประตู ตำรวจจึงใช้อุปกรณ์งัดประตูเข้าไปจับนายจิรัฏฐ์หรือเอกอ้วน ได้ภายในห้องนอนบนชั้นสองของบ้าน พร้อมแสดงหมายจับข้อหาสมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดฯ โดยนายจิรัฏฐ์ ให้การปฎิเสธทุกข้อกล่าวหา

จากการตรวจค้นภายในบ้านพักพบตู้เซฟ ภายในมีเงินสดกว่า 8 ล้านบาท สมุดบัญชีที่ระบุชื่อนายสุรเชษฐ์ โฮเต็น ที่ตรวจสอบพบว่ามีอาชีพขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง แต่ในบัญชีดังกล่าวมีเงินหมุนเวียนกว่า 60 ล้านบาท  รถยนต์ 2 คัน ประกอบด้วยรถเบนซ์ ฮอนด้าซีวิค  โฉนดที่ดิน  ทองคำแท่งและรูปพรรณ รวมกว่า 20 บาท  กระเป๋าแบรนด์เนม และ นาฬิกาหรู

พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ระบุว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นการขยายผลจากการจับไอซ์ 400 กิโลกรัม โดยสืบสวนพบมีผู้สั่งการผ่านโทรศัพท์มือถือโดยใช้ซิมโทรศัพท์ที่ซื้อจากชายแดนลงทะเบียนโดยชาวต่างชาติประเทศเพื่อนบ้าน จึงสืบสวนจนพบว่าผู้ที่ใช้ซิมโทรศัพท์ดังกล่าวคือ เอกอ้วน

สำหรับเอกอ้วน ถูกจับเมื่อปี 2547 ในคดียาเสพติด แต่ศาลฎีกาพิพากษายกฟ้องจึงพ้นคดีเมื่อปี 2555 และยังมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติดโดยทำหน้าที่อยู่ตรงกลางระหว่างยาเสพติดกับเงิน ทำหน้าที่สั่งยาจากจังหวัดเชียงราย เอามาพักที่กรุงเทพมหานคร ก่อนส่งยาเสพติดไปยังพื้นที่ภาคใต้ และเครือข่ายนี้คาดว่ามีเงินหมุนเวียนกว่าพันล้านบาท

นอกจากนี้ตำรวจปราบปรามยาเสพติดได้นำกำลังเข้าปิดล้อมตรวจค้นเครือข่ายของเอกอ้วน และตรวจยึดทรัพย์สินเครือข่ายยาเสพติดตามปฎิบัติการชัยยะ สยบไพรี 60/6 รวม 43 จุด แบ่งเป็นพื้นที่ กรุงเทพมหานคร 14 จุด  พื้นที่ภาค 1จำนวน 20 จุด พื้นที่ภาค3 จำนวน 4 จุด และพื้นที่ภาค4 จำนวน 5 จุด

นอกจากนี้ปฎิบัติการชัยยะ สยบไพรี 60/6 มีการออกหมายจับเครือข่ายยาเสพติดรวม 11 คน ประกอบด้วย 1.นายเฉลิมพล กลิ่นด้วง มีหน้าที่ติดต่อผู้ค้ายาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้าน และรอรับยาเสพติดในกรุงเทพมหานคร 2.นาย ใหม่ ทองมีทิพย์ เคยร่วมกันลำเลียงยาเสพติดกับผู้ต้องหาที่ถูกจับจากทางภาคเหนือ 3.น.ส.ภาวฤณ ธนะพัฒนากุล ทำหน้าที่สนับสนุนและร่วมในการสำรวจเส้นทางการลำเลียงยาเสพติด 4นายจิรัฎฐ์ เพ็ญโสภณวิชญ์ หรือจรัล คำสด หรือเอกอ้วน เป็นตัวการระดับสั่งการ 5.นายสุรเชษฐ์ โฮเต็น มีหน้าที่ทำธุรกรรมการเงินโดยการเปิดบัญชีให้กับเอกอ้วน 6.น.ส.ธิดารัตน์ แทนหาญ มีหน้าที่ทำธุรกรรมการเงิน 7.น.ส.รัสรินทร์ ตระกูลสุขอนันต์ มีหน้าที่ทำธุรกรรมทางการเงิน 8.คนต่างด้าวสัญชาติเมียนมาร์ มีหน้าที่รับโอนเงินค่ายาเสพติดในพื้นที่ภาคเหนือและเกี่ยวข้องกับคดียาเสพติดรายสำคัญจำนวนมาก 9.คนต่างด้าวสัญชาติเมียนมาร์ มีหน้าที่รับโอนเงินค่ายาเสพติดอยู่ในพื้นที่ภาคเหนือ 10.นายคมฐิพัฒน์ หรือชัย งามขำ สามีน.ส.รัสรินทร์ ซึ่งขณะนี้หลบหนีหมายจับคดียาเสพติดศาลอาญากรุงเทพใต้ลงวันที่ 16 ม.ค. 2555 ในข้อหาร่วมกันมียาเสพติดไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายของพื้นที่สนทุ่งมหาเมฆ 11.นายธัญญาวัฒน์ แสนหล้า มีหมายจับศาลอาญาลงวันที่ 9 ก.ย. 2560ในข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษหรือยาไอซ์ไว้ในครอบครองและข้อหาสมคบ ฯ