posttoday

กองปราบบุกรวบ"บอย ยูนิตี้"หน้าศาล

14 มิถุนายน 2560

กองปราบ บุกรวบ "บอย ยูนิตี้"หน้าศาลอาญาฯ หลังถูกออกหมายจับในข้อหาฉ้อโกงประชาชน เจ้าตัวงงยันไม่รู้มาก่อนถูกออกหมายจับ

กองปราบ บุกรวบ "บอย ยูนิตี้"หน้าศาลอาญาฯ หลังถูกออกหมายจับในข้อหาฉ้อโกงประชาชน เจ้าตัวงงยันไม่รู้มาก่อนถูกออกหมายจับ 

เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. เวลา 15.00 น. พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผู้บังคับการกองปราบปราม (ผบก.ป.) พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช รองผบก.ป. มอบหมายสั่งการให้ พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกตุ ผู้กำกับการ 1 กองปราบปราม (ผกก. 1บก.ป.) นำหมายศาลอาญากรุงเทพใต้ เลขที่ 286/60 ลงวันที่ 14 มิ.ย. ในฐานความผิดร่วมกันฉ้อโกงประชาชน เข้าจับกุมนายอินทระศักดิ์ เตชธีรสิริ หรือ “บอย ยูนิตี้” กรรมบริษัทเอสทีที ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ย่านรัชดาภิเษก และสุขุมวิท 63 ได้ที่บริเวณซอยสีคาม ทางเข้าออกศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ขณะอยู่บนรถยนต์บีเอ็มดับเบิ้ลยูสีดำ ป้ายแดง ทะเบียน บ-1186 กรุงเทพมหานคร เพื่อเดินทางกลับออกจากศาล

เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามได้แสดงหมายจับต่อหน้านายอินทระศักดิ์ ก่อนที่จะคุมตัวมาสอบปากคำที่กองปราบปราม

ทั้งนี้มีรายงานว่า ก่อนที่นายบอย จะถูกตำรวจกองปราบปรามจับกุม ได้เดินทางมาที่ศาลพร้อมกับทีมทนายความเพื่อนำหลักฐาน ยื่นฟ้องพ.ต.อ.ไพสิษฐ์ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ กับพวกซึ่งเป็นรองอธิบดี และพวก รวม 12 คน ฐานปฎิบัติหน้าที่มิชอบ /บุกรุก / และแจ้งข้อความอันเป็นเท็จต่อศาล  กรณีดีเอสไอสั่งปิดโชว์รูมรถยนต์ 2 แห่งและนำกำลังเข้าตรวจค้น เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคมที่ผ่านมา พร้อมอายัดรถยนต์หรูรวม 34 คัน โดยกล่าวหาว่ามีรถภายในโชว์รูมบางส่วนถูกโจรกรรมมาจากประเทศอังกฤษ และมีการแจ้งสำแดงเท็จ ซึ่งศาลได้นัดฟังคำสั่งเวลา13.30 น.วันที่ 27 มิถุนายนนี้ โดยนายอินทระศักดิ์ ระบุจะเดินทางมาด้วยตัวเองโดยก่อนหน้านี้ได้ฟ้องทั้ง12คนในคดีแพ่ง เรียกค่าเสียหายกว่า50ล้านบาทไปแล้วเมื่อวันที่2มิถุนายนที่ผ่านมา และหลังจากนี้จะเตรียมฟ้องคดีหมิ่นประมาทและคดีอื่นๆเพิ่มเติมต่อไป ซึ่งสาเหตุที่ต้องเดินหน้าฟ้องเพราะรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากมีบริษัทนำเข้ารถหรูกว่า300บริษัท แต่มีบริษัทตนบริษัทเดียวที่ถูกดำเนินคดี นอกจากนี้ทางดีเอสไอไม่เคยแสดงเอกสารว่าตนผิดอะไร และไม่เคยเรียกเข้าไปสอบถามหรือชี้แจงใดๆ ซึ่งจนขณะนี้ยังไม่ทราบว่าผิดอะไร  ประกอบกับยังมีการสั่งปิดโชว์รูม ทำให้ไม่สามารถให้บริการได้ มีมูลค่าความเสียหายมาก

ต่อมาเวลา 15.30 น. ที่กองปราบปราม เจ้าหน้าที่ตำรวจกก.1บก.ป. ได้คุมตัวนายอินทระศักดิ์ มาสอบปากคำเพิ่มเติม พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา และค้นตรวจค้นรถยนต์บีเอ็มดับเบิ้ลยู สีดำรุ่น ทะเบียนป้ายแดง บ.1186 กทม.และอายัดรถของนายอินทระศักดิ์ เพื่อเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน

พ.ต.อ.จิรภพ กล่าวว่า การจับกุมบอย ยูนิตี้ ครั้งนี้ เป็นผลมาจากการที่ผู้เสียหายมีตั้งแต่ต้นปี 2560 มีผู้เสียหาย 5 ถึง 6 คน เข้าแจ้งความว่าได้ซื้อรถยนต์หรูมูลค่าตั้งแต่ 8 ล้านบาท ถึง 30 ล้านบาท จากบริษัทในกลุ่มของนายอินทระศักดิ์ แล้วไม่สามารถจดทะเบียนได้ รวมทั้งถูกตำรวจและทางเจ้าหน้าที่ศุลกากรจับเนื่องจากไม่ได้เสียภาษี ซึ่งภายหลังทางตำรวจจึงได้รวบรวมหลักฐานในส่วนของผู้เสียหายที่ซื้อรถยนต์พอร์ช รุ่น พานาเมร่า (Porsche Panamera) ใน ราคา 8 ล้านบาท ซึ่งมีหลักฐานชัดเจน จึงขอศาลออกหมายจับนายอินทระศักดิ์ เมื่อวานที่ผ่านมา ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน และนำกำลังเข้าจับกุมวันนี้ที่ถนนนครไชยศรี หลังสืบทราบว่านายอินทระศักดิ์ จะเดินทางมายื่นฟ้องกรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง 

ขั้นตอนหลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะสอบปากคำนายบอย พร้อมแจ้งข้อหาในความผิดมูลฐานเดียวกันคือฉ้อโกงประชาชน ในส่วนของคดีที่ผู้ซื้อลัมโบกินี รุ่นอเวนทาดอร์ มูลค่ากว่า 30 ล้านบาท แล้วเกิดปัญหาจดทะเบียนไม่ได้

อย่างไรก็ตามในส่วนการออกหมายจับและนำกำลังจับกุมโดยไม่ออกหมายเรียก เนื่องจากคดีมีอัตราโทษเกิน 3 ปี พนักงานสอบสวนสามารถออกหมายจับหรือออกหมายเรียกได้ แต่ตำรวจใช้แนวทางการออกหมายจับและจับกุมทันทีเนื่องจากพยานหลักฐานชัดเจน  

ด้าน นายอินทระศักดิ์ กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่าเป็นหมายคดีฉ้อโกงประชาชน ซึ่งรายละเอียดนี้ยังไม่ทราบเรื่อง แต่จากที่ดูในรายละเอียด เบื้องต้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2557 ซึ่งรถคันนี้นำออกมาจากกรมศุลกากร และมีปัญหากับทางกรมศุลกากรกันอยู่ เป็นรถพอร์ช รุ่น พานาเมร่า โดยครั้งนั้นทางกรมศุลกากรได้ปล่อยให้นำรถออกมา ซึ่งมีการนำออกมาที่ สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง  ขณะที่ยังไม่ได้เสียภาษี และถึงเวลาจะเสียภาษีทางกรมศุลการก็ไม่ได้ให้เสียภาษี พอเกิดเรื่องจึงได้มีการฟ้องร้องกัน โดยที่ไม่ได้เสียภาษี 

อย่างไรก็ตามรู้สึกแปลกใจและ งงๆ ที่ถูกจับแบบไม่ทันตั้งตัว ซึ่งไม่ทราบมาก่อนว่าตนเองมีหมายจับ โดยส่วนตัวมองว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถออกหมายเรียกได้ แต่การจับกุมครั้งนี้ส่วนตัวไม่ได้กังวลใจอะไรสามารถชี้แจงได้ ทั้งนี้ยินดีให้ความร่วมมือกับตำรวจ  และได้เตรียมหลักทรัพย์ในการขอยื่นประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน