posttoday

อัยการมั่นใจตามตัว“บอส”กลับมาดำเนินคดีได้ก่อนขาดอายุความ

09 มิถุนายน 2560

อัยการมั่นใจตามตัว“บอส อยู่วิทยา”กลับมาดำเนินคดีได้ก่อนขาดอายุความ ร่วมตำรวจเตรียมหนังสือขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน

อัยการมั่นใจตามตัว“บอส อยู่วิทยา”กลับมาดำเนินคดีได้ก่อนขาดอายุความ  ร่วมตำรวจเตรียมหนังสือขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน

เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. นายอำนาจ โชติชัย อธิบดีอัยการสำนักงานต่างประเทศ เปิดเผยภายหลังการประชุมติดตามตัวนายวรยุทธ อยู่วิทยา ทายาทเครื่องดื่มบำรุงกำลัง ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย กรณีขับรถยนต์หรูชนด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ เสียชีวิตเมื่อปี 2555 แล้วหลบหนีไม่มาตามนัดหมายของอัยการในการส่งฟ้องคดี ว่าได้หารือร่วมกับพล.ต.ต. อภิชาติ สุริบุญญา ผู้บังคับการกองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการจัดทำเอกสารเพื่อดำเนินการตามพระราชบัญญัติส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน ซึ่งต้องใช้เอกสารจำนวนมาก และต้องทำเอกสารให้ละเอียดเพื่อป้องกันความผิดพลาด โดยขณะนี้อยู่ระหว่างรอคำร้องจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และรายละเอียดที่อยู่ของผู้ต้องหามาประกอบเท่านั้น รวมถึงร่วมกันหารือกรอบแนวทางการปฎิบัติ

ด้านนายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า ในที่ประชุมได้มีการหารือกับตำรวจ ถึงรายละเอียดการประสานกับตำรวจสากลเพื่อขอออกหมายจับนายวรยุทธ รวมถึงการยืนยันแหล่งที่อยู่ว่ายังอยู่ที่ประเทศอังกฤษหรือไม่ ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้ชี้แจงเนื่องจากอาจส่งผลต่อขั้นตอนการปฎิบัติงาน

ส่วนการติดตามตัวนายวรยุทธกลับมาดำเนินคดีที่ประเทศไทยจะสามารถติดตามตัวได้ก่อนที่บางข้อหาจะขาดอายุความในวันที่ 3 ก.ย.นี้ หรือไม่ นายประยุทธ กล่าวว่าอัยการและตำรวจซึ่งเป็นคณะทำงานมีการทำงานอย่างต่อเนื่อง และประชุมหารือกันอย่างเข้มข้นร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด ถือเป็นเครื่องยืนยันที่จะให้ความมั่นใจได้ว่าจะติดตามตัวนายวรยุทธ กลับมาดำเนินคดีที่ประเทศไทยได้ก่อนคดีจะขาดอายุความ โดยที่ประชุมมีการพูดคุยว่าจะต้องเร่งรัดให้แล้วเสร็จภายในเงื่อนไขเวลา

สำหรับการติดตามตัวนายวรยุทธ หรือบอส นั้น เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 28 เม.ย. 2560 ที่ผ่านมา ที่อัยการสำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้ ประสานพนักงานสอบสวนทองหล่อให้ขอศาลอาญากรุงเทพใต้ ออกหมายจับเพื่อติดตามตัวมาฟ้องเมื่ออัยการ ยืนยันคำสั่งให้ฟ้องนายวิทยา 2 ข้อหา ฐานขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย อัตราโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี และปรับไม่เกิน 20,000 บาท อายุความ 15 ปี ซึ่งจะหมดอายุความในวันที่ 3 ก.ย.2570 และข้อหาและขับรถในทางก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลไม่หยุดรถและให้ความช่วยเหลือตามสมควรแก่ผู้ได้รับความเสียหาย และไม่แจ้งต่อเจ้าพนักงานในทันที หรือ ชนแล้วหนี ตาม พระราชบัญญัติจราจรทางบกฯ อัตราโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับ 5,000-20,000 บาท อายุความ 5 ปี ซึ่งจะหมดอายุความในวันที่ 3 ก.ย. 2560

ภาพ http://www.tnamcot.com/view/593a1f62e3f8e41285e13c44