สั่งขยายผลค้าอาวุธ
พล.ต.อ.ศรีวราห์ ยันทหารอากาศค้าอาวุธไม่เกี่ยวการเมือง ผบ.ทบ.สั่งขยายผลให้ถึงคนบงการ
พล.ต.อ.ศรีวราห์ ยันทหารอากาศค้าอาวุธไม่เกี่ยวการเมือง ผบ.ทบ.สั่งขยายผลให้ถึงคนบงการ
พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้แถลงผลการสอบสวน พ.อ.อ.ภคิน เดชพงษ์ เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการด้าน การข่าว กอ.รมน.กรุงเทพมหานคร ในคดีอาวุธสงครามว่า พ.อ.อ.ภคิน ได้ยอมรับว่าซื้ออาวุธสงครามจากชาวกัมพูชา และได้มีการขนไปจำหน่าย ให้กับชนกลุ่มน้อยที่ภาคเหนือ ซึ่งเป็นเพียงนายหน้า และทำเพียงคนเดียว โดยจะนำอาวุธทั้งหมดไปส่งในพื้นที่ แล้วเข้าไปรับเงินจากผู้ซื้อ ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเมืองแต่ประการใด
สำหรับชาวกัมพูชาที่ถูกจับมา ด้วยนั้นไม่รู้จัก ถือเป็นความโชคร้ายที่มาอยู่ในที่เกิดเหตุในระหว่างนั้น ซึ่งมูลค่าการซื้อขายครั้งนี้ พ.อ.อ.ภคิน บอกว่าจำไม่ได้ แต่ได้ทำมาแล้ว 2-3 ครั้ง โดยใช้รถยนต์คันที่เกิดเหตุเดินทาง เข้ามาและติดป้ายทะเบียนตรากงจักรที่ซื้อมาจากย่านสะพานเหล็ก กรุงเทพฯ แล้วนำมาติดไว้ในรถ ซึ่งป้าย กอ.รมน.กรุงเทพฯ ที่นำมาติดประจำตัวนั้น ออกโดยพลตรีซึ่งได้เคยมาทำงานให้กับฝ่ายทหารในกรุงเทพฯ โดยไม่รู้ว่าเป็นของปลอม
อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้ต้องหายอมรับสารภาพทั้งหมด จึงได้สั่งให้มีการดำเนินการแจ้งความทั้งร้านค้าย่านสะพานเหล็กที่ปลอมแปลงป้ายทะเบียนรถ ดังกล่าวด้วย ส่วนการสอบสวนต่อไปเกี่ยวกับผู้อยู่เบื้องหลังหากเกี่ยวข้องกับใครก็จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด และให้เวลาพนักงานสอบสวนดำเนินการภายใน 7 วัน
ด้าน พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะเลขาธิการ คสช. ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเร่งสืบค้นและขยายผล ไปให้ถึงผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ทั้งเรื่องการรับส่งพัสดุทางไปรษณีย์ในการลักลอบค้ายาเสพติดและอาวุธสงคราม
ทั้งนี้ อยากให้ข้อสังเกตในการ สกัดกั้นการกระทำผิดกฎหมาย ซึ่ง เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการด้วยมาตรการ ที่เข้มข้น ซึ่งผู้กระทำผิดพยายามปรับเปลี่ยนวิธีการและรูปแบบต่างๆ เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจพบและจับกุม และมอบหมายให้ทุกกองทัพภาคดำเนินการตรวจสอบในเรื่องดังกล่าวด้วย
สำหรับในพื้นที่ชายแดนได้เน้นย้ำในด่านตรวจต่างๆ ให้มีความรัดกุมในการตรวจค้นสิ่งผิดกฎหมาย การตรวจยานพาหนะทุกประเภทไม่เว้นแม้แต่รถของทางราชการ หรือรถส่วนบุคคลที่นำป้ายสัญลักษณ์ของทางราชการมาติดเพื่ออำพราง เพื่อให้การสกัดกั้น สิ่งผิดกฎหมายสอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้กระทำผิดให้มากที่สุด รวมถึง ให้กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยเข้มงวดเป็นพิเศษในการตรวจสอบ