posttoday

ตร.กองปราบจับผู้ต้องหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้างเป็นดีเอสไอ

28 พฤษภาคม 2560

ตำรวจกองปราบจับผู้ต้องสงสัยตามหมายจับคดีแก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้างตัวเป็นดีเอสไอหลอกลวงนักธุรกิจ ขณะที่ผู้ต้องหาปฏิเสธไม่เกี่ยวข้อง

ตำรวจกองปราบจับผู้ต้องสงสัยตามหมายจับคดีแก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้างตัวเป็นดีเอสไอหลอกลวงนักธุรกิจ ขณะที่ผู้ต้องหาปฏิเสธไม่เกี่ยวข้อง

เมื่อวันที่ 28 พ.ค. พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผู้บังคับการปราบปราม (ผบก.ป.) สั่งการให้พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผกก. 2 บก.ป. พ.ต.ต.กรกช ยงยืน สว.กก.2 บก.ป. และเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.2 บก.ป. ทำการจับกุมตัว น.ส.อรษา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงจังหวัดนนทบุรี ที่ 249/2555 ลงวันที่ 25 ก.ค. 55 ในความผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกง โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่ย่าน บุคคโล เขตธนบุรี

การจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจาก น.ส.อรษา พร้อมด้วย นายชายแดน มณีทร สามีและพวกอีก 3 คน รวมกลุ่มตั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรศัพท์ไปหลอกลวงเอาเงินจากผู้เสียหาย โดยการออกอุบายอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่จากกรมสอบสวนคดีพิเศษ และหน่วยงานราชการต่างๆ ก่อนพูดจาข่มขู่ผู้เสียหายซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักธุรกิจ ว่าธุรกิจที่ทำอยู่นั้นเป็นธุรกิจผิดกฎหมาย หากไม่อยากให้ถูกดำเนินคดีหรือตรวจสอบให้ทำการโอนเงินมาให้ตามบัญชีธนาคารที่ผู้ต้องหากลุ่มนี้ให้ไว้ ซึ่งที่ผ่านมามีผู้หลงเชื่อตกเป็นเหยื่อถูกหลอกหลายราย โดยบางรายถูกหลอกสูญเงินกว่า 3 ล้านบาท

สาเหตุส่วนใหญ่ที่ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อมิจฉาชีพกลุ่มนี้ เนื่องจากทุกครั้งที่ทำการก่อเหตุ กลุ่มผู้ต้องหาจะทำการโทรศัพท์ผ่านระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีเทคนิคสามารถอำพรางให้แสดงหมายเลขที่โทรเข้าเป็นเป็นหมายเลขโทรศัพท์หมายเลขใดก็ได้ให้ปรากฏไปยังโทรศัพท์ของผู้รับปลายทาง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นหมายเลขโทรศัพท์ของกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือเบอร์โทรของหน่วยงานราชการต่างๆ จึงทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ

อย่างไรก็ตามเมื่อวันที่ 17 พ.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ กก.2 บก.ป. ได้ทำการติดตามจับกุมตัว นายชายแดน สามีของผู้ต้องหารายนี้ ได้ที่ บริเวณย่านสถานีรถไฟหนองคาย ต.หนองกอมเกาะ อ.เมืองหนองคาย จ.หนองคาย ก่อนจะขยายผลติดตามจับ น.ส.อรษา ผู้ต้องหารายนี้ได้ดังกล่าว ทำให้ขณะนี้เหลือเพียงผู้ต้องหา อีก 3 รายที่ยังคงหลบหนีการจับกุมตัวของเจ้าหน้าที่

จากการสอบสวน น.ส.อรษา ให้การปฏิเสธ โดยอ้างว่าไม่ได้มีส่วนรู้เห็นเกี่ยวกับคดีดังกล่าว ส่วนการที่ตนเองถูกออกหมายจับในคดีดังกล่าวนั้นเป็นเพราะว่านายชายแดนสามีแอบนำบัตรประชาชนของตนไปเปิดบัญชีธนาคารเพื่อใช้ในการกระทำความผิด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การ ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี รับตัวไปดำเนินการตามกฎหมายต่อไป