ม.ศรีปทุม เปิดหลักสูตรรัฐศาสตร์ รับสมัครถึงส.ค.60

ม.ศรีปทุม เปิดหลักสูตรรัฐศาสตร์ หวังปั้นนักการเมือง นักปกครอง นักรัฐศาสตร์นักบริหาร น้ำดีออกสู่เวทีการเมืองไทย เปิดรับสมัครตั้งแต่บัดนี้ถึง ส.ค.2560

นายไชยา ยิ้มวิไล ผู้อำนวยการหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยศรีปทุม เปิดเผยว่าสิ่งสำคัญในการเดินหน้าปฏิรูปประเทศ คือ การพัฒนาทางความคิดด้วยการศึกษา จึงได้เชิญผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความรู้ความสามารถระดับประเทศมาเปิดหลักสูตรในสาขารัฐศาสตรและรัฐประศาสนศาสตร์ ระดับปริญญาโทและเอก อาทิ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี  รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์  และ นายอนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต เป็นต้น มาให้ความรู้นักศึกษาที่มหาวิทยาลัยศรีปทุม จึงอยากเชิญชวนผู้บริหารภาครัฐและเอกชนมาร่วมเรียน

นอกจากนี้ยังมีผู้ทรงคุณวุฒิ อื่นๆที่มีความรู้ความสามารถอีกมากมาย อาทิ ศ.ดร.ติน ปรัชญพฤทธิ์ , ศ.ดร.วรเดช จันทรศร , ศ.ดร.สร้อยตระกูล อรรถมานะ , รศ.ดร.สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์ , รศ.ดร.พัชรี สิโรรส , รศ.ดร.กลัยา วานิชย์บัญชา , รศ.ดร.ปิยากร หวังมหาพร ,รศ.ดร.จุลชีพ ชินวรรโณ , รศ.สมยศ นาวีการ และ ดร.รัชนีพร พุคยาภรณ์ พุกกะมาน เป็นต้น

ทั้งนี้ความพิเศษของหลักสูตรที่แตกต่างจากมหาวิทยาลัยอื่นทั่วไป คือ ในอดีตการศึกษารัฐศาสตร์มักมุ่งเน้นระบบการเมืองการปกครอง แต่เนื่องด้วยสภาวะสังคมบริบทยุคใหม่ "หลักการบริหารจัดการเชิงรูปธรรม" ต้องสร้างความรู้ความเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงและความผันผวนของโลก โดยเฉพาะความก้าวทันโลก ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาและรวดเร็ว โดยผ่านโซเชียลมีเดียที่ครอบคลุมทั่วโลก

นายไชยา กล่าวว่านักศึกษาที่มาเรียนจะได้รับความรู้จากผู้มากประสบการณ์จริงๆในการบริหารประเทศ มาเปิดมุมมองในกำหนดนโยบายสาธารณะ เพราะสิ่งสำคัญ คือ การนำนโยบายไปปฏิบัติ ที่ผู้ปฏิบัติต้องมีความรู้ความเข้าใจโครงสร้างและระบบขององค์การในเชิงแนวคิดทฤษฎี ทั้งเชิงคลาสสิคและแนวคิดสมัยใหม่ แต่สิ่งสำคัญ คือ ข้อมูลข่าวสาร และ ความรู้ ที่ต้องสามารถบริหาร จัดการข้อมูลข่าวสารและความรู้ ให้ทันสมัย  ดังนั้นผู้เรียนจะได้เปิดวิสัยทัศน์และสะสมประสบการณ์ใหม่ๆจากผู้บรรยายที่มีประสบการณ์อย่างมาก ทั้งในเชิงกฎหมาย การบริหารราชการ การบริหารองค์กรขนาดใหญ่ ตลอดจนความรู้ความเข้าใจในการคาดการณ์ด้านสังคม การเมือง เศรษฐกิจ และความสัมพันธระหว่างประเทศ รวมถึงแนวคิดตรงข้าม อาทิ กลุ่มก่อการร้าย ภัยพิบัติ ยิ่งในยุคกระแสโลกาภิวัฒน์ สภาวะเศรษฐกิจโลกเปลี่ยนไปทั้งในแง่การเติบโตทางเศรษฐกิจ การแข่งขันทางการค้า ความสัมพันธทางการทูต

นายไชยา กล่าวว่าองค์ความรู้ของมหาวิทยาลัย ไม่ได้เน้นเพียงการถ่ายทอดทฤษฎีหรือองค์ความรู้เพียงอย่างเดียว แต่ให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างให้ผู้เรียนเป็นผู้ที่คิดเป็น มีความคิดสร้างสรรค์มีความเป็นผู้นำที่มีคุณธรรม และสามารถนำกิจกรรมของตนเองหรือของนายจ้างให้ประสบความสำเร็จได้ พร้อมกับจัดการเรียนการสอนที่ส่งเสริมการสร้างเครือข่ายที่ดีระหว่างนักศึกษา