posttoday

นักธุรกิจจีนร้องยธ.ถูกหลอกร่วมลงทุนสร้างคอนโดในไทย

09 พฤษภาคม 2560

"นักธุรกิจชาวจีน" ร้อง "รองปลัด ยธ." ขอช่วยเหลือด้านคดี หลัง ถูกหลอกร่วมลงทุนสร้างคอนโดในไทย ก่อนถูกแจ้งความเอาผิด เรียกเงิน 10 ล้านบาท

"นักธุรกิจชาวจีน" ร้อง "รองปลัด ยธ." ขอช่วยเหลือด้านคดี หลัง ถูกหลอกร่วมลงทุนสร้างคอนโดในไทย ก่อนถูกแจ้งความเอาผิด เรียกเงิน 10 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 9 พ.ค. เวลา 10.30 น.ที่กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) นายม้อ ฉี จิน (Mr.Mo Quijin) นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชาวจีน จากเมืองฉางเต๋อ มณฑลหูหนาน อายุ 49 ปี เดินทางเข้าพบพ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เพื่อร้องขอความช่วยเหลือด้านกฎหมาย หลังถูกหลอกร่วมลงทุนในประเทศไทย โดยผู้แอบอ้างใช้ชื่อสมาคมไทย-จีน และใช้ชื่อนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ของประเทศไทย ร่วมลงทุนและขอแบ่งเปอร์เซ็นต์ พร้อมทั้งขอความเป็นธรรมให้ช่วยคุ้มครองความปลอดภัย โดยมอบหลักฐานข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในคดีด้วย

นายม้อ กล่าวว่า ตนเป็นนักธุรกิจชาวจีน ก่อนหน้านี้ได้รับการชักชวนจากนายหวัง ซึ่งอ้างตัวเป็นสมาชิกสมาคมส่งเสริมการลงทุนไทย-จีน ชักชวนให้มาลงทุนก่อสร้างคอนโดมิเนียม และการขนส่งสินค้าไทย-จีน จึงตัดสินใจเดินทางมายังประเทศไทยในวันที่ 12 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยมีนายหวังเดินทางมารอต้อนรับ ก่อนจะพาไปยังสมาคมดังกล่าว เพื่อพบกับนายหว่าง กั้วปิง ซึ่งเป็นบุคคลที่อ้างตัวเป็นรองประธานสมาคมฯ แต่เมื่อไปถึงก็พบว่าที่ตั้งของสมาคมไม่ตรงกับภาพถ่ายที่นำแสดงในเว็บไซด์ รวมถึงเนื้อหาในการเจรจาผลตอบแทนก็ไม่ตรงกับข้อเสนอที่มีการพูดคุยกันที่ประเทศจีน โดยสมาคมจะขอหักผลประโยชน์ 20 เปอร์เซ็นต์จากเงินลงทุนของตน จึงปฏิเสธไม่ร่วมลงทุนและขอเดินทางกลับโรงแรมในจ.ปทุมธานี

นายม่อ กล่าวว่า ต่อมาวันที่ 14 เม.ย.ที่ผ่านมา นายหวังได้เดินทางมาพบที่โรงแรมและเชิญให้ไปเจรจาที่สมาคมดังกล่าวอีกครั้ง แต่เมื่อถึงที่หมายกลับไม่ใช่ที่สมาคม แต่เป็นที่สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ จ.ปทุมธานี และถูกแจ้งข้อหาความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งตนได้ให้การปฏิเสธผ่านล่ามว่า ไม่เคยเห็นเว็บไซด์ดังกล่าว และไม่เคยเป็นแอดมิน จึงไม่สามารถกระทำความผิดเกี่ยวกับพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ได้ อีกทั้ง ทางสมาคมยังได้เรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 10 ล้านบาท พร้อมระบุว่าจะถอนแจ้งความทันที หากได้รับเงินค่าเสียหาย แต่ตนไม่ตกลง จึงถูกตัวควบคุมตัวตามกฎหมายเป็นเวลา 2 วัน

นายม่อ กล่าวว่า จากนั้น ตนจึงติดต่อไปยังสถานทูตจีนประจำประเทศไทย เพื่อขอความช่วยเหลือเรื่องการประกันตัว ก่อนจะได้รับการปล่อยตัว อย่างไรก็ตาม ในวันนี้เวลา 13.00 น. ตนพร้อทนายความจะเดินทางไปเข้าพบพนักงานสอบสวนที่สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ เพื่อให้ปากคำ ทั้งนี้ สำหรับการตรวจสอบพบว่าสถานที่จดทะเบียนจัดตั้งสมาคมดังกล่าว ไม่ตรงกับที่แจ้งไว้ โดยในเว็บไซด์ระบุเป็นโรงเรียนสยามนานาชาติ ต.บึงยี่โถ แต่ในเอกสารจดทะเบียนระบุว่า ตั้งอยู่ที่ต.ประชาธิปัตย์ โดยขณะนี้ตนได้รับความลำบากมาก และเพิ่งเคยเดินทางมายังประเทศไทยเป็นครั้งแรก เพราะไม่สามารถเดินทางกลับประเทศจีนได้ เพราะตกเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญา

ด้าน พ.ต.อ.ดุษฎี กล่าวว่า ได้ประสานด้วยวาจาไปยังผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานีแล้ว เพื่อขอให้ดำเนินการในคดีอย่างเป็นธรรม เนื่องจากผู้ต้องหาได้เข้าร้องขอความเป็นธรรมต่อกระทรวงยุติธรรม หากมีการกระทำความผิดตามกฎหมายไทยจริง ก็ต้องดำเนินคดีไปตามกฎหมาย แต่ถ้าเป็นการข่มขู่เพื่อเรียกเงินจากชาวต่างชาติ ก็ขอให้ดำเนินการเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้เสียหายด้วย