สั่งพักสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดง

รมว.คมนาคม สั่งพักการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดง พร้อมตั้งกก.สอบ หลังเกิดเหตุ เครนร่วง คนงานเสียชีวิต 3 ราย ด้าน วสท.ลงตรวจสอบพบเหล็กพีทีบาร์ยึดตอม่อขาด ขณะที่ กระทรวงแรงงาน เตรียมฟ้องอาญา

เมื่อวันที่ 29 เม.ย. ความคืบหน้ากรณีชิ้นส่วนงานก่อสร้าง รถไฟฟ้าสายสีแดงหล่น บริเวณหน้าวัดดอนเมือง ทำให้คนงานเสียชีวิต 3 ราย ช่วงค่ำวานนี้( 28 เม.ย.) นั้น  การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ชี้แจงว่า ตามที่เกิดเหตุโครงสร้างในส่วนของ support launcher ที่ติดตั้งอยู่บนเสา กท.24+402 หน้าวัดดอนเมือง ซึ่งอยู่ในโครงการก่อสร้างรถไฟชานเมืองสายสีแดง (บางซื่อ-รังสิต) ร่วงหล่นลงมาทับคนงานของ บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวลล๊อปเมนต์ (ITD) เสียชีวิต 3 ราย ซึ่งสาเหตุเบื้องต้นเกิดจากอุปกรณ์โยงยึดอาจขาดนั้น โดยเมื่อคืนนี้ (28 เม.ย.) นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ รักษาการผู้ว่าฯ รฟท. พร้อมผู้บริหารได้เดินทางไปที่เกิดเหตุแล้ว

สำหรับรายชื่อคนงานที่เสียชีวิต 3 ราย ประกอบด้วย นายไมตรี สุภาสิวัฒน์, นายสงัด เทพสันทัด และนายสันติพงษ์ แซ่ว่าง ซึ่งทั้งหมดเป็นคนงานของ บมจ.อิตาเลียนไทยฯ

ล่าสุด นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม ได้สั่งการให้ บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวลล๊อปเมนต์ พักการก่อสร้างแล้ว พร้อมตั้งกรรมการสอบสวนหาสาเหตุ และพักงานวิศวกรควบคุมงานดังกล่าว พร้อมกับขอให้แถลงความรับผิดชอบ และแสดงแผนความปลอดภัยในการก่อสร้างรถไฟสายสีแดงทั้งหมด

ด้าน นายธเนศ วีระศิริ นายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมด้วยนายสุเมธ มโหสถ อธิบดีกรมสวัสดิการ และคุ้มครองแรงงาน ลงพื้นที่ตรวจสถานที่ก่อสร้างรางรถไฟฟ้า สายสีแดง บริเวณหน้าโรงเรียนวัดดอนเมือง ถนนกำแพงเพชร 6 เขตดอนเมือง ซึ่งเมื่อคืนที่ผ่านมาเกิดเหตุคานเหล็กรองปูนที่มีไว้สำหรับค้ำยันและรับน้ำหนักแผ่นปูนรางรถไฟฟ้าหล่นลงมาข้างล่าง ทำให้คนงานของบริษัทอิตาเลียนไทยที่กำลังก่อสร้างอยู่ข้างบนหล่นลงมาพร้อมกับเครื่องจักรเสียชีวิต 3 ราย

นายธเนศ กล่าว่า จากการตรวจสอบพบความผิดปกติในการยกเครนเหล็ก"พีทีบาร์" หรือ เส้นแรงดึงสูงสำหรับคอนกรีตอันแรง ซึ่งเป็นตัวยึดตอม่อขาดในขณะที่กำลังดำเนินการส่งผลให้โครงสร้างเหล็กทั้งหมดร่วงหล่นลงมา ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียดว่ามีความผิดปกติอย่างไร ในเส้นเหล็กที่ใช้ในการยกดังกล่าว ซึ่งในขณะนี้เจอเพียง 1 เส้น จากทั้งหมด 6 เส้น ซึ่งเส้นเหล็กที่พบมีลักษณะขาดแนวตัดขวาง ที่อาจจะเกิดจากแรงเฉือนหรือเสียดสีเข้ากับคานเหล็กหรือสิ่งก่อสร้างอื่นๆ จนขาด จึงต้องขอนำเข้าห้องปฏิบัติการเพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดก่อนจึงจะสรุปได้ ส่วนเหล็กอีก 5 เส้นต้องใช้เวลาในการตรวจสอบก่อนว่าเป็นลักษณะอย่างไร เบื้องต้นระบบการปฎิบัติทั้งหมดยังไม่พบข้อบกพร่อง แต่ต้องขอเวลาตรวจสอบรายละเอียดที่ชัดเจนก่อนว่าเกิดความประมาทหรือข้อผิดพลาดจุดใด หากการตรวจสอบของทั้งเจ้าหน้าที่วิศวกรรมสถาน และกองพิสูจน์หลักฐานแล้วเสร็จ จะสามารถเปิดเส้นทางให้ประชาชนสัญจรได้ตามปกติ

ทั้งนี้ยืนยันในการก่อสร้างมีระเบียบมาตรฐานในการปฎิบัติ หากจำเป็นต้องยกสิ่งของหรือก่อสร้างก็จะมีการปิดกั้นพื้นที่ ซึ่งก็พบว่าทางบริษัทมีการปิดกั้นพื้นที่แล้วแต่ยอมรับว่าการทำงานเป็นช่วงเวลากลางคืนอาจจะเกิดความไม่สะดวก และความผิดพลาด

ด้าน นายสุเมธ มโหสถ อธิบดีกรมสวัสดิการ และคุ้มครองแรงงาน กล่าวว่า การก่อสร้างเส้นทางสายสีแดง เคยเกิดอุบัติเหตุมาแล้วถึง 6 ครั้ง มีผู้เสียชีวิตรวมครั้งนี้จำนวน 8 ราย โดยครั้งนี้จะไม่ยอมที่จะเพียงแค่ให้เปรียบเทียบปรับเท่านั้น แต่จะแจ้งความดำเนินคดีอาญาตามกฎกระทรวงข้อหาฝ่าฝืนเรื่องความปลอดภัย เพื่อที่จะให้บริษัทมีความใส่ใจในเรื่องของความระมัดระวังความปลอดภัยมากขึ้น/และในช่วงที่เกิดเหตุยังปล่อยให้คนงานอยู่ในพื้นที่ไม่มีการกั้นคนงานออก ซึ่งถือเป็นความประมาทที่อาจจะก่อให้เกิดความสูญเสียได้อีก

ขณะที่ตำรวจนครบาลดอนเมือง ระบุว่า ขณะนี้ยังไม่มีการแจ้งข้อหาใคร เพราะยังต้องรอข้อมูลการตรวจสอบจากวิศวกรรมสถานฯ จึงจะทราบว่า ต้องเรียกใครมาสอบปากคำบ้าง โดยหลังจากนี้จะเร่งเคลียร์พื้นที่โดยนำเครนมายกเหล็กที่ถล่มลงมาออกเพื่อเร่งเปิดเส้นทางการจราจร