posttoday

เจ้าของ20แบรนด์ร้องกองปราบเจอบริษัทโปรโมทสินค้าลวงเสียหายกว่า30ล.

25 เมษายน 2560

เจ้าของสินค้า 20 แบรนด์เข้าแจ้งความเอาผิดบริษัทรับโปทโมทสินค้าฐานฉ้อโกง หลังไม่โปรโมทสินค้าในตลาดจีนตามที่ตกลง

เจ้าของสินค้า 20 แบรนด์เข้าแจ้งความเอาผิดบริษัทรับโปทโมทสินค้าฐานฉ้อโกง หลังไม่โปรโมทสินค้าในตลาดจีนตามที่ตกลง

เมื่อวันที่ 25 เม.ย. น.ส.ธนัทธรณ์ ตะนาวสินรังสี พร้อมกลุ่มผู้เสียหาย ซึ่งเป็นเจ้าของหรือตัวแทนแบรนด์สินค้าต่างๆ กว่า 20 แบรนด์ เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ป. พ.ต.อ.ชาคริต สวัสดี พ.ต.อ.สมควร พึ่งทรัพย์ พ.ต.อ.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบก.ป.เพื่อแจ้งความดำเนินคดีเจ้าของบริษัทแห่งหนึ่งในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน โดยทำหนังสือร้องทุกข์และนำเอกสารที่เกี่ยวข้องมามอบให้พนักงานสอบสวนไว้เป็นหลักฐาน

น.ส.ธนัทธรณ์ กล่าวว่า ได้รู้จักบริษัทดังกล่าวผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ เมื่อประมาณเดือนพ.ย. 2559 ซึ่งดำเนินธุรกิจในการรับสร้างแบรนด์และโปรโมทสินค้า เพื่อเสนอขายไปยังตลาดในประเทศจีน ต่อมา ได้ทราบว่าบริษัทแห่งนี้ได้จัดทำโครงการจัดหาเน็ตไอดอลชื่อดังในประเทศจีนที่มีผู้ติดตามมากกว่า 1 ล้านคน มาช่วยโปรโมทสินค้าให้กับผู้ประกอบการชาวไทย โดยเน็ตไอดอลจะมีการพูดโปรโมทสินค้าให้เป็นเวลา 30 นาที ผ่านช่องทางถ่ายทอดสดทางเว็บไซต์เถาเป่า "Taobao Live" ซึ่งเป็นเว็บไซต์ชอปปิ้งออนไลน์ยอดนิยมในประเทศจีน พร้อมกับการันตีว่าหากเข้าร่วมโครงการแล้วจะมีลูกค้าในประเทศจีนมาสั่งซื้อสินค้าเป็นจำนวนมาก

อย่างไรก็ดี ผู้ประกอบการที่สนใจร่วมโครงการจะถูกคิดค่าใช้จ่ายเป็นยูนิตๆ ละ 75,900 บาท โดยทุก 1 ยูนิต จะมีการจัดหาเน็ตไอดอล 1 คน เพื่อโปรโมทสินค้าให้

น.ส.ธนัทธรณ์ กล่าวต่อว่า เมื่อรู้สึกสนใจเพราะอยากขยายตลาดแบรนด์สินค้าของตนเพื่อไปขายในประเทศจีนอยู่แล้ว จึงสมัครซื้อยูนิตไป แต่ภายหลังกลับปรากฏว่า เน็ตไอดอลที่กล่าวอ้างนั้นไม่ได้มีชื่อเสียงหรือผู้ติดตามเป็นหลักล้านโดยมีผู้ติดตามแค่หลักพันถึงหลักหมื่นคน ส่วนการพูดโปรโมทสินค้าก็ไม่มีความเป็นมืออาชีพ ที่สำคัญหลังจากโปรโมทสินค้า ยอดขายก็ไม่ได้เป็นไปตามเป้าหมายตามที่มีการกล่าวอ้าง

น.ส.ธนัทธรณ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้การดำเนินการอีกหลายอย่างของโครงการนี้ ก็ไม่ตรงตามที่ระบุไว้ เช่น กรณีที่อ้างว่าจะลงโฆษณาสินค้าให้ในเว็บไซต์เถาเป่า ก็ไม่มีการลงโฆษณา , การรายงานการสั่งซื้อสินค้าของผู้ประกอบการ ก็ไม่มีการดำเนินการ หรือแม้แต่การดูแลด้านการตลาดให้ตลอดระยะเวลา 5 ปี โดยขณะนี้พบว่ามีผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์สินค้าต่างๆ กว่า 20 แบรนด์ ที่หลงเชื่อ จ่ายเงินซื้อยูนิตเพื่อเข้าร่วมโครงการดังกล่าวจนได้รับความเสียหายเป็นมูลค่ารวมกว่า 30 ล้านบาท

ด้าน พล.ต.ต.สุทิน กล่าวว่า เบื้องต้นได้รับเรื่องไว้โดยมอบหมายให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำผู้ร้องทุกข์และรวบรวมข้อมูลหลักฐานต่างๆ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ก่อนพิจารณาดำเนินคดีต่อไป