posttoday

จ่อหมายจับแก๊งเงินกู้"เสี่ยวิชัย"

12 เมษายน 2560

รองปลัดยธ.เผยดีเอสไอเตรียมออกหมายจับ 2,400 คน 90เครือข่ายเงินกู้เสี่ยวิชัย ส่วน156รายชื่อเจ้าหน้าที่รัฐที่พบความเชื่อมโยงคาดอีก 1 เดือนชัดเจน

รองปลัดยธ.เผยดีเอสไอเตรียมออกหมายจับ 2,400 คน 90เครือข่ายเงินกู้เสี่ยวิชัย ส่วน156รายชื่อเจ้าหน้าที่รัฐที่พบความเชื่อมโยงคาดอีก 1 เดือนชัดเจน

เมื่อวันที่ 11 เม.ย.  พ.ต.อ.ดุษฎี อารยะวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรมเปิดเผยความคืบหน้าแก๊งเงินกู้นอกระบบเครือข่ายนายวิชัย ปั้นงาม ซึ่งถูกศาลออกหมายจับและถูกอายัดทรัพย์ระหว่างการสอบสวนว่า สัปดาห์หน้าตนจะเข้าพบนายสุวพันธ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเพื่อรายงานความคืบหน้าในคดีดังกล่าวก่อนขอให้ดีเอสไอและตำรวจร่วมกันเพื่อหาหลักฐานและความเชื่อมโยงของเครือข่ายเงินกู้นอกระบบรายใหญ่ซึ่งขณะนี้พบว่ากระจายอยู่ในหลายจังหวัดเพื่อขอศาลออกหมายจับกว่า2,400 คน จากทั้งหมด  80-90เครือข่าย  ซึ่งยังไม่รวมกับเจ้าหน้าที่รัฐที่มีชื่อเข้าไปเกี่ยวข้องอีก 156คน และขณะนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษและสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ(ป.ป.ท)อยู่ระหว่างตรวจทานรายชื่ออย่างเอียดอีกครั้งก่อนส่งให้หน่วยงานต้นสังกัดเอาผิดทางวินัยและเสนอให้ศอ.ตช.พิจารณาคาดว่าภายในอีก  1 เดือนจะได้ชื่อบุคคล และตำแหน่งที่ถูกต้อง

รองปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวอีกว่า สำหรับการตรวจสอบเครือข่ายเงินกู้นอกระบบที่ผ่านมานอกจากนายวิชัยแล้วยังไม่พบเครือข่ายที่ใหญ่กว่านี้ดังนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งตำรวจ ดีเอสไอ กระทรวงมหาดไทยได้ประชุมร่วมกันหลายครั้งและได้ข้อยุติว่า ควรมีการกำหนดพื้นที่เป้าหมายและหน่วยงานรับผิดชอบเพื่อความชัดเจน เช่นหากเป็นจังหวัดที่อยู่ในพื้นที่ที่กองงบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ,2,3 และมีบุคคลเป้าหมาย 1-20มีใครบ้างที่ทำให้ประชาชนเดือดร้อนก็ต้องกำหนดภาระกิจให้หน่วยงานรับผิดชอบในพื้นที่เข้าไปตรวจค้นออกหมายจับได้  ซึ่งการทำงานจำเป็นต้องขอความร่วมมือจากตำรวจจับกุมเพราะกำลังเจ้าหน้าที่ดีเอสไอไม่เพียงพอดำเนินการ

ส่วนกรณีที่ปปง.ตรวจสอบพบว่ามีชื่อของนักการเมืองระดับชาติเข้ามาเกี่ยวกับเครือข่ายของนายวิชัยนั้น พ.ต.อ.ดุษฎี ยืนยันว่ายังคงมีการดำเนินการอยู่และรอหลักฐานเพิ่มเติมจากทางปปง.โดยอัยการที่ร่วมสอบสวนในคดีนี้ให้ความเห็นว่าบุคคลที่ปรากฎชื่อโอนเงินให้กับนายวิชัยจะต้องถูกพนักงานสอบสวนเรียกสอบปากคำด้วยส่วนจะโยงถึงอดีตนายตำรวจหรือไม่นั้นอยู่ที่ความเชื่อมโยงของหลักฐาน