posttoday

ป้าแท็กซี่ขอโทษทุกฝ่ายปัดลักทรัพย์ผู้โดยสาร

05 เมษายน 2560

หญิงขับแท็กซี่ไล่ผู้โดยสารลงรถ ขอโทษทุกฝ่าย รับคนอารมณ์ร้อน เครียดหนี้ท่วม แต่ยืนยัน ไม่ได้ลักทรัพย์ผู้โดยสาร ด้าน ขนส่งแจ้ง 3ข้อหา ปรับ9,000บาท

หญิงขับแท็กซี่ไล่ผู้โดยสารลงรถ ขอโทษทุกฝ่าย รับคนอารมณ์ร้อน เครียดหนี้ท่วม แต่ยืนยัน ไม่ได้ลักทรัพย์ผู้โดยสาร ด้าน ขนส่งแจ้ง 3ข้อหา ปรับ9,000บาท

เมื่อเวลา 10.00น. วันที่ 5เมษายน ที่สน.บางเขน นางผุสดี อัญชัญภาติ หญิงขับแท็กซี่ไล่ผู้โดยสารลงจากรถ เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สน.บางเขนแล้ว หลังจากถูกออกหมายจับคดีลักทรัพย์ผู้โดยสาร เมื่อปี 2558 โดยก่อนหน้านี้ผู้โดยสารเข้าแจ้งความว่า ถูกนางผุสดีไล่ลงจากรถ และขับรถออกนอกเส้นทาง ทั้งยังลักทรัพย์เป็นเงินสดกว่า 10,000 บาท โทรศัพท์มือถือ และทรัพย์สินมีค่าอื่นๆ ก่อนขับรถหลบหนีไป

ทั้งนี้พนักงานสอบสวน อยู่ระหว่าง สอบปากคำนางผุสดีเพิ่มเติมก่อนให้พนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน มาอายัดตัวในข้อหาวิ่งราวทรัพย์และกักขังหน่วงเหนี่ยวภายในซอยลาดพร้าว 1 เมื่อปี 2557 โดยคดีนี้ได้ไล่ผู้โดยสารลงจากรถ แต่เมื่อผู้โดยสารกำลังก้าวขาลง ก็ขับรถกระชากออกไป ทำให้ผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บ และยังกระชากเงินสด 2,000 บาทไปจากมือผู้โดยสารด้วย

อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ.อำนาจ อินทรศวร ผกก.สน.บางเขน กล่าวว่า พล.ต.ต มนตรี ยิ้มแย้ม รอง ผบช.น.กำลังเดินทางมาติดตามคดีด้วยตนเอง ก่อนจะนำตัวไปฝากขังที่ศาลอาญารัชดา เบื้องตันไม่อนุญาตให้ประกันตัว เนื่องจากมีการกระทำผิดในพื้นที่อื่น เช่น สน.พหลโยธินและพื้นที่อื่นๆด้วย โดยตำรวจสน.พหลโยธินจะเดินทางมาอายัดตัวไปดำเนินคดีต่อไป

ต่อมาเวลา 10.30 น. นางผุสดี เปิดเผยว่า ตนเริ่มขับแท็กซี่เมื่อปี2555-2556 โดยยอมรับว่าเป็นคนอารมณ์ร้อน ถ้าเครียดจะมีอาการโมโหรุนแรงทันที ทั้งนี้ยอมรับว่าตนและผู้โดยสารมักจะทะเลาะกันเรื่องเส้นทางหลายครั้ง และตนมักจะเครียดและโมโหหากต้องไปเส้นทางที่รถติด เนื่องจากอยากส่งผู้โดยสารให้ถึงที่เร็วๆ และจะได้ไปรับผู้โดยสารคนอื่นต่อ เพราะต้องหาเงินไปใช้หนี้ นอกจากนี้ยอมรับว่าตนเป็นคนเครียดอยู่แล้ว เนื่องจากประสบปัญหาหนี้สินจำนวนมากถึงขั้นขายบ้าน ขายรถ ประกอบกับไม่ประสบความสำเร็จเรื่องครอบครัว เมื่อมาขับรถและเจอรถติดก็ยิ่งเครียด โดยปกติไม่ได้ไปรักษาจริงจัง แต่จะซื้อยานอนหลับกับยาคลายเครียดจากร้านขายยา หรือคลินิก เอง

นางผุสดี กล่าวอีกว่า สำหรับเหตุการณ์ตามในคลิปนั้น เกิดจากผู้โดยสารเป็นแม่และลูกกันเรียกรถตนจากแพลตตินัม ไปย่านจรัญสนิทวงศ์ ซึ่งรถติดมาก ผู้โดยสารที่เป็นลูกสาวจึงให้ตนเข้าไปในซอย ซึ่งตนไม่อยากมีปัญหา จึงเข้าไปในซอย แต่เมื่อรถติดทางผู้โดยสารก็ด่าว่าตนและหาว่าตนพาอ้อมเส้นทาง ตนจึงเริ่มเครียด ขอให้ลงแต่ผู้โดยสารไม่ยอมลงและไม่จ่ายเงิน บอกให้ส่งให้ถึงที่ิ ก่อนที่ตนจะบอกว่าขอไปเติมแก๊ส ทางผู้โดยสารไม่พอใจจึงพยายามจะลง ขณะที่ผู้โดยสารที่เป็นแม่พยายามจะจ่ายตังค์ แต่ลูกไม่ให้จ่าย ตนและผู้โดยสารที่เป็นลูกจึงยื้อเงินกันจนเงินขาด ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ตามในคลิป อย่างไรก็ดีขณะที่เหตุการณ์ที่มีการแจ้งความไว้ที่สน.พหลโยธินที่ระบุว่าตนชิงเงินผู้โดยสารจำนวน2,000บาทนั้นไม่เป็นความจริง เพราะผู้โดยสารเรียกตนจากเซ็นทรัลลาดพร้าวไปยังลาดพร้าวซอย1 ค่ามิเตอร์เพียง53 บาท และผู้โดยสารก็จ่ายมา 60 บาทเป็นธนบัตร20จำนวน 3ใบ ซึ่งตนก็ได้ทอนไปแล้ว5 บาท และหากตนจะชิงเงิน2,000บาทก็เป็นไปไม่ได้ เนื่องจากผู้โดยสารนั่งข้างหลัง ตนจะทำได้อย่างไร นอกจากนี้ตนก็ไม่ทราบว่าผู้เสียหายบาดเจ็บขณะลงรถอีกด้วย

นางผุสดี กล่าวต่อว่านอกจากนี้ กรณีที่มีการแจ้งความว่าตนลักทรัพย์จำนวน 10,000บาทเมื่อปี2558 ก็ไม่เป็นความจริง และเรื่องที่ใช้คัตเตอร์จี้ผู้โดยสารตนก็ไม่เคยทำ แต่ยอมรับว่าตนพกคัตเตอร์ไว้ในรถจริงเพื่อป้องกันตัว ทั้งนี้ตนอยากขอโทษผู้โดยสาร ขอโทษเจ้าของอู่รถที่ทำให้เดือดร้อน ตนไม่ได้ตั้งใจ ไม่มีเจตนาจะทำร้ายใคร และเหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นบทเรียนอย่างมาก ซึ่งตอนนี้ตนก็ไม่ได้ขับรถมานานมากแล้ว และที่เข้ามามอบตัวเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์

ขณะที่ พล.ต.ต.มนตรี เปิดเผยว่าหลังจากนี้ ทางพนักงานสอบสวน สน.บางเขน จะต้องสอบปากคำนางผุสดีเพิ่มเติม และจะควบคุมตัวนางผุสดีพร้อมสำนวน ส่งให้พนักงานอัยการคดีพิเศษ 5 สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.รัชดาภิเษก ที่ศาลอาญาในช่วงบ่ายวันนี้

อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวน สน.พหลโยธินได้ขออายัดตัวนางผุสดีไว้ เพื่อดำเนินคดีต่อในข้อหาวิ่งราวทรัพย์ และกักขังหน่วงเหนี่ยวภายในซอยลาดพร้าว 1 เมื่อปี 2557 โดยคดีนี้ได้ไล่ผู้โดยสารลงจากรถ แต่เมื่อผู้โดยสารกำลังก้าวขาลง ก็ขับรถกระชากออกไป ทำให้ผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บ และชิงเงินสด 2,000 บาทไปจากมือผู้โดยสารด้วย

ด้านทนายความ เปิดเผยว่าได้เตรียมหลักทรัพย์ 2 แสนบาท ขอประกันตัวในชั้นอัยการแล้ว

ขณะที่ นายเล็ก ทับพิสิทธิ์ ผู้ชำนาญการ กรมการขนส่งทางบก ได้ดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหา และเปรียบเทียบปรับ นางผุสดี อัญชันภาติ คนขับรถแท็กซี่ไล่ผู้โดยสารลงจากรถ รวม 4 ข้อหา ประกอบด้วย  1. ฝ่าฝืนข้อกำหนดว่าด้วยความปลอดภัย ปรับเงิน 5,000 บาท 2. กระทำการใดๆให้ผู้โดยสารลงจากรถก่อนถึงที่หมายปรับเงิน 1,000 บาท 3. แสดงกิริยาวาจาไม่สุภาพกับเงิน 1,000 บาท 4. ขับรถในระหว่างใบอนุญาตขับขี่สิ้นอายุ ปรับเงิน 2,000 บาท รวมปรับเงินทั้งสิ้น จำนวน 9,000 บาท