posttoday

กรมอุทยานฯดีใจพบเสือกระต่ายหลังคาดสูญพันธุ์แล้ว

16 กุมภาพันธ์ 2560

ทีมงานวิจัยสถานีวิจัยสัตว์ป่าดอยเชียงดาว สามารถใช้กล้องกับดักถ่ายภาพ"เสือกระต่าย หรือแมวป่า"ทั้งเพศผู้และเมีย ได้ครั้งแรกในรอบ 40 ปี หลังจากคิดว่าสูญพันธุ์ไปแล้ว เตรียมส่งทีมสำรวจประชากร

ทีมงานวิจัยสถานีวิจัยสัตว์ป่าดอยเชียงดาว สามารถใช้กล้องกับดักถ่ายภาพ"เสือกระต่าย หรือแมวป่า"ทั้งเพศผู้และเมีย ได้ครั้งแรกในรอบ 40 ปี หลังจากคิดว่าสูญพันธุ์ไปแล้ว เตรียมส่งทีมสำรวจประชากร

นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งข่าวดีจาก นายศักดิ์สิทธิ์ ซิ้มเจริญ หัวหน้ากลุ่มงานวิชาการ สำนักสัตว์ป่าว่า ผู้ช่วยนักวิจัย ที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย จ.เชียงใหม่ ได้รายงานว่าในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อยนั้น พบ เสือกระต่าย หรือแมวป่า โดยทีมงานวิจัยสถานีวิจัยสัตว์ป่าดอยเชียงดาว นายจิรัชย์ คำอ้าย ผู้ช่วยนักวิจัย โดยที่ นายปริญญา ผดุงถิ่น ช่างภาพอิสระ  สามารถถ่ายรูปได้ พบทั้งเพศผู้และเมีย

"ถือเป็นเรื่องน่าตื่นเต้น และน่ายินดีอย่างยิ่ง เพราะประมาณ 40 กว่าปีแล้ว ที่เราไม่มีข่าวคราวของสัตว์ชนิดนี้ออกมา เวลานี้สามารถยืนยัน ได้แล้วว่า เสือกระต่ายไม่ได้หมดไปแล้วจากป่าไทยแน่นอน โดยก่อนหน้านี้เมื่อปี  2519 ในรายงานสัตว์ป่าเมืองไทย ของ น.พ.บุญส่ง เลขะกุล ผู้บุกเบิกงานอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติป่าไม้และสัตว์ป่าของไทย ว่า เสือกระต่าย หรือแมวป่านั้น กระจายกระจายพันธุ์อยู่ในป่าผลัดใบตั้งแต่พื้นที่ภาคกลางขึ้นไปทางตอนเหนือ  แต่หลังจากนั้น ไม่มีรายงานอย่างเป็นทางการว่ามีใครเจอสัตว์ชนิดนี้อีกเลย มีแต่พูดกัน แต่ไม่มีหลักฐานชัดเจน แต่ครั้งนี้ มีหลักฐานยืนยันจริงๆ"นายธัญญา กล่าว

นายธัญญากล่าวว่า การค้นพบครั้งนี้ แสดงให้เห็นว่าพื้นที่ป่าอนุรักษ์โดยเฉพาะเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อยยังมีความอุดมสมบูรณ์อยู่ และระบบการลาดตระเวณป่ามีความเข้มข้น โดยหลังจากนี้ ได้วางแผนขั้นต่อไปสำหรับการดูแลเสือกระต่ายในพื้นที่ดังกล่าว คือ การสำรวจจำนวนประชากรว่ามีมากน้อยแค่ไหน รวมทั้งเพิ่มความเข้มงวดในการลาดตระเวนพื้นที่ดังกล่าวให้มากยิ่งขึ้น ส่วนตัวคิดว่าน่าจะมีข่าวดีกว่านี้ คือ มีจำนวนเสือกระต่าย มากกว่าที่คาดการเอาไว้

ด้านนายศักดิ์สิทธิ กล่าวว่า เสือกระต่าย เป็นสัตว์ในตระกูลแมว อาศัยอยู่ในป่าผลัดใบ เป็นสัตว์ป่าปราดเปรียว ทั้งตัวผู้และตัวเมียน้ำหนัก 4-6 กิโลกรัม ปัจจุบันนี้ยังไม่มีใครในเมืองไทยศึกษาสัตว์ชนิดนี้อย่างจริงจัง จึงไม่มีข้อมูลทางวิชาการมากนัก อย่างไรก็ตาม คาดว่า ที่มีการเรียกชื่อว่า เสือกระต่ายนั้นเป็นเพราะ มันมีใบหูค่อนข้างใหญ่คล้ายกระต่ายป่า หรืออาศัยอยู่ในป่า ที่มักจะมีเหยื่อคือกระต่ายค่อนข้างชุกชุม

"ผมไม่ได้ยินเรื่องราวของเสือกระต่ายมานานมากแล้ว เกือบจะคิดว่ามันสูญพันธุ์ไปจากป่าเมืองไทยด้วยซ้ำไป เพราะสัตว์ชนิดนี้ พบเฉพาะในป่าของประเทศอินเดียเท่านั้น ส่วนที่ประเทศไทย มีแต่พูดถึงว่าเห็น ตรงนั้นตรงนี้ แต่ไม่มีภาพถ่ายยืนยัน จนกระทั่งเจอล่าสุดที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย ที่ นายปริญา ถ่ายภาพออกมาชัดเจนมาก"นายศักดิ์สิทธิ์ กล่าว