posttoday

ดีเอสไอบุกทลายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์มูลค่า 30 ล้าน

08 กุมภาพันธ์ 2560

"ดีเอสไอ" ทลาย 4 โกดังเครือข่ายนำเข้าสินค้าแบรนด์เนมละเมิดลิขสิทธิ์ มูลค่ากว่า 30 ล้าน

"ดีเอสไอ" ทลาย 4 โกดังเครือข่ายนำเข้าสินค้าแบรนด์เนมละเมิดลิขสิทธิ์ มูลค่ากว่า 30 ล้าน

เมื่อวันที่ 8 ก.พ. พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ นำคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 94/2559 เข้าดำเนินการตรวจค้นสถานที่เป้าหมาย 4 แห่ง ตามอนุมัติของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง โดยแบ่งกำลังเป็น 4 ชุด คือ

ชุดปฏิบัติการที่ 1 นำโดย พ.ต.ต.สุริยา เข้าตรวจค้นโกดังของบริษัทพีเอสสปอร์ตคาร์โก้ เลขที่ 143 ม.3 ซ.แจ้งวัฒนะ 1 แยก 6 ถ.แจ้งวัฒนะ แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นสำนักงานและสถานที่เก็บซุกซ่อนสินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้าและละเมิดลิขสิทธิ์

2.ชุดปฏิบัติการที่ 2 นำโดย นายปิยะศิริ วัฒนวรางกูร รองผู้บัญชาการสำนักคดีอาญาพิเศษ 1 เข้าตรวจค้นบริษัทซันวอร์เตอร์ริช พาวเวอร์เวอร์เซอร์วิส จำกัด เลขที่ 1376-1278 ซ.หมู่บ้านตะวันฉาย ถ.บางบอน 5 เขตหนองแขม กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นสำนักงานและสถานที่กระจายสินค้าที่ได้ลักลอบนำเข้ามาจากนอกราชอาณาจักร

3.ชุดปฏิบัติการที่ 3 นำโดย นายนภดล รัตนเสถียร รักษาการในตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญคดีพิเศษ เข้าตรวจค้นสำนักงานเลขที่ 602 ชั้น 6 อาคารเอสกรุ๊ป ซ.เพชรบุรี 33 เขตราชเทวี กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นสำนักงานจัดทำบัญชี และสถานที่ติดต่อประสานงานลูกค้า และ 4.ชุดปฏิบัติการที่ 4 นำโดย นายนพพร พฤษะวัน พนักงานสอบสวนคดีพิเศษชำนาญการ เข้าตรวจค้นโกดังไม่ทราบเลขที่ ภายในคลังสินค้าราษฎร์บูรณะ 27 A ถ.ราษฎร์บูรณะ เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นสำนักงานและสถานที่กระจายสินค้าที่ได้ลักลอบนำเข้ามาจากนอกราชอาณาจักร

จากการตรวจค้นพบสินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้า สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ สินค้านำเข้าจากต่างประเทศ ที่ไม่สามารถแสดงหลักฐานการนำเข้า สินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานอุตสาหกรรม และสินค้าทีาจัดทำขึ้นเพื่อลอกเลียนแบบ เช่น กระเป๋า รองเท้า เสื้อผ้าแบรนด์เนม อุปกรณ์รถยนต์ อุปกรณ์จักรยานยนต์ นอกจากนี้ ยังพบเหล็กเบาที่ไม่ผ่านมาตรฐานอุตสาหกรรมอีกจำนวนหนึ่ง รวมมูลค่าทั้งหมดประมาณ 30 ล้านบาท

พ.ต.ต.สุริยา กล่าวว่า จากการเข้าตรวจค้นโกดังของบริษัทพีเอสสปอร์ตคาร์โก้ ภายในโกดังดังกล่าวเป็นสำนักงานในการรับออเดอร์สินค้า ทำงานด้านเอกสารบัญชีรายชื่อลูกค้า การเงินต่างๆ จากการสืบสวนสอบสวนทราบว่าเป็นของนางอารีย์ แซ่ตั้ง หรือ เจ้ไก่ ซึ่งประกอบธุรกิจลักลอบการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ มากว่า 10 ปี ส่วนอีก 3 จุดที่เข้าค้นพร้อมกันในวันนี้พบว่าเป็นสำนักงานและสถานที่กระจายสินค้า โดยทั้ง 4 จุด เป็นเจ้าของเดียวกัน

พ.ต.ต.สุริยา กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบของดีเอสไอจนได้ข้อมูลว่า เป็นกลุ่มกระบวนการรายใหญ่ที่สุดในประเทศที่มีพฤติกรรมและการลักลอบนำสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์และละเมิดเครื่องหมายการค้าเข้ามาในราชอาณาจักรผ่านพรมแดนระหว่างประเทศ โดยเมื่อสินค้าถูกส่งเข้ามาจะพักสินค้าที่โกดังแห่งนี้ประมาณ 3 ชั่วโมง ก่อนจะมีการใช้รถตู้ลำเลียงสินค้าไปยังร้านค้าในกรุงเทพฯ บางส่วนได้กระจายต่อไปยัง สำเพ็ง ประตูน้ำ ตลาดโรงเกลือ อ.อรัญญาประเทศ จ.สระแก้ว และ พื้นที่อื่นๆ

สำหรับพฤติกรรมดังกล่าว นอกจากเป็นความผิดเกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญาแล้ว ยังเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร และ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ทั้งนี้ ดีเอสไอจะมีการสืบสวนสอบสวนและขยายผลเครือข่ายที่เกี่ยวข้องต่อไป