posttoday

"พุทธะอิสระ" พบดีเอสไอ ปัดบุกรุกป่าแม่วาง

01 กุมภาพันธ์ 2560

พุทธะอิสระ ให้ปากคำ ดีเอสไอ ยันไม่ได้บุกรุกป่าแม่วาง จ.เชียงใหม่ แจงแค่ช่วยทำกิจกรรมปลูกป่า

พุทธะอิสระ ให้ปากคำ ดีเอสไอ  ยันไม่ได้บุกรุกป่าแม่วาง จ.เชียงใหม่  แจงแค่ช่วยทำกิจกรรมปลูกป่า

เมื่อวันที่ 1 ก.พ  ที่สํานักคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พระพุทธอิสระ เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม พร้อมทนายความ นำหลักฐานโครงการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ "ลูกปลูกป่าให้พ่อ" เข้าพบ พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล ผบ.สำนักคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ดีเอสไอ เพื่อให้ปากคำกรณี คณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย แจ้งความดำเนินคดี พระพุทธอิสระ ฐานบุกรุกที่ป่าสงวน บ้านใหม่วังผาปูน  ต.แม่วิน อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่  เนื้อที่ประมาณ 300 ไร่

พระพุทธอิสระ เปิดเผยหลังให้ปากคำเสร็จสิ้น ว่า วันนี้มาชี้แจงกับ พนักงานสอบสวนดีเอสไอ ว่าไม่ได้ถือครอบครองที่ดินดังกล่าวและยังได้รับความร่วมมือจาก ป่าไม้จังหวัด องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) หัวหน้าหน่วยราชการ ชาวบ้านในท้องถิ่น ช่วยกันปลูกป่ากันชน เมื่อประมาณ 3-4 ปีมาแล้ว เพื่อไม่ให้ชาวบ้านเข้าไปบุกรุกเพิ่มเติม กระทั่งขณะนี้ป่าไม้เขียวขจี พร้อมมีการตั้งงบประมาณดูแลรักษาต่อไป  ส่วนโครงการปลูกป่าของ พระพุทธอิสระ ดำเนินการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2526 จนถึงปัจจุบัน และปลูกป่ามา 10 กว่าจังหวัดแล้ว โดยริเริ่มจากการสร้างโรงเรียนแล้วพบปัญหาภูเขาไม่มีป่าไม้และน้ำใช้ จึงช่วยกันก่อตั้งโครงการปลูกป่าร่วมกับหน่วยงานรัฐทำป่ากันชน ไม่เคยหวังไปยึดครอบครองแต่อย่างใด

พระพุทธอิสระ กล่าวว่า  การร้องทุกข์ของ คณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย คาดว่าหาเหตุผลเพื่อให้ พระพุทธอิสระ ได้รับความเสียหาย ในประเด็นสิ่งปลูกสร้างเพราะมีชาวบ้านไปสร้างขนำหรือกระท่อมชั่วคราว เอาไว้ในที่ดินเพื่อป้องกันแดดออกหรือฝนตก เมื่อเวลาไปเฝ้าไร่ แต่บันทึกของป่าไม้เดิมเขียนว่าเป็น กุฏิ  ไม่ได้เขียนว่า ขนำ ซึ่งมันมีความแตกต่างกัน และ ดีเอสไอ ลงพื้นที่ตรวจสอบแล้ว ก็ถือเป็นเรื่องดีเพราะได้มาอธิบายแก่สังคม ช่วยให้พิสูจน์ตัวเองด้วยว่าพร้อมจะชี้แจงทุกหน่วยงานราชการ ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนข้อมูลว่าจะรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่

"ขณะนี้เตรียมแจ้งความเอาผิด วัดพระธรรมกายบุกรุกป่าทั่วประเทศ เพิ่มเติมและกำลังรวบรวมพยานหลักฐาน โดยเฉพาะพื้นที่รอยต่อระหว่างประเทศ อาทิ จ.ปราจีนบุรี จ.สระแก้ว จ.แม่ฮ่องสอน จ.น่าน จ.เชียงราย จ.เชียงใหม่ และ ทางภาคใต้ สุไหงปาดี สุไหงโกลก พบมีข้อมูลบุกรุกป่ากว่าพันไร่ อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้ (2 ก.พ.) จะเดินทางไปที่ วัดชนะสงคราม เพื่อติดตามทวงถามความคืบคดี วัดพระธรรมกาย"