posttoday

พบทุจริตสอบนายสิบที่ตร.ภูธรภาค7กว่า30คน

11 มกราคม 2560

รักษาราชการแทนรองผบ.ตร.เผยเจ้าหน้าที่พบทุจริตสอบนายสิบตำรวจที่ตร.ภูธรภาค7กว่า30คน

รักษาราชการแทนรองผบ.ตร.เผยเจ้าหน้าที่พบทุจริตสอบนายสิบตำรวจที่ตร.ภูธรภาค7กว่า30คน

เมื่อวันที่ 11 ม.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา รักษาราชการแทนรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รรท.รองผบ.ตร.) เป็นประธานการประชุมพิจารณาผลการตรวจสอบข้อมูลการรับสมัครและคัดเลือกนายสิบตำรวจ หลังพบการทุจริตสอบอย่างเป็นขบวนการ ในสนามสอบกองบัญชาการตำรวจนครบาล  โดยพล.ต.ท.พรหมธร ภาคอัต รรท.ผู้ช่วยผบ.ตร. ตัวแทนจากกองบัญชาการที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม ใช้เวลาหารือประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที

พล.ต.อ.เดชณรงค์ กล่าวภายหลังประชุม ว่า จากการตรวจสอบการสอบนายสิบตำรวจ ทุกกองบัญชาการ(บช.) ด้วยวิธีการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ พบว่า นอกจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) แล้ว ยังพบความผิดปกติ ในกองบัญชการตำรวจภูธรภาค 7(บช.ภ.7) อีกจำนวนหนึ่ง ในลักษณะคล้ายกับบช.น. ซึ่งพล.ต.ต.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น รรท.ผบช.ภ.7 กำลังประชุมเพื่อพิจารณาดำเนินคดี ในส่วนความผิดปกติใน บช.ภ. 7 ซึ่งในส่วนภาค 7 นั้น มีผู้สมัครสอบทั้งสิ้น 4,182 คน มาสอบ 3,746 คน พบทุจริตกว่า 30 คน รับ 250 คน สอบผ่านข้อเขียน 500 คน  ส่วนบช.อื่นๆ อีก 10 บช.ไม่พบความผิดปกติแต่อย่างใด ดังนั้นในส่วนของ บช.ก็สามารถดำเนินคัดเลือกได้ตามขั้นตอน มีเพียง 2 บช.ที่พบปัญหา และหาข้อพิจารณาในครั้งนี้ 

พล.ต.อ.เดชณรงค์ กล่าวว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้มอบหมายให้ตน เป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยวันนี้ได้หารือ ให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เสนอให้ ผบ.ตร. พิจารณาในวันที่ 16 ม.ค. นี้ ว่าจะให้การสอบดังกล่าวเป็นโมฆะทั้งหมด หรือโมฆะบางส่วน ถอนสิทธิผู้ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริต หรืออาจจะมีแนวทางอื่นๆ โดยยึดหลักการพิจารณา 3 ประการ คือ 1.ต้องรวดเร็วในการตรวจสอบข้อเท็จจริง 2.ต้องรอบคอบ สามารถแยกแยะได้ว่ามีการกระทำผิดในรูปแบบใดบ้าง และ 3.ต้องมีความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยเฉพาะผู้สมัครสอบและสอบผ่านการสอบโดยสุจริต

"หลักการพิจารณาต้องให้ความเป็นธรรมที่สุด คำนึงถึงสิทธิผู้ที่บริสุทธิด้วย โดยยึดหลักการทางปกครอง ยกตัวอย่างในห้องสอบ มีนักเรียน 30 คน แล้วมีการลอกข้อสอบกัน 5 คน ถามว่าเราต้องตัดสิทธิคนที่เหลือที่ไม่เกี่ยวข้องหรือไม่ กรณีนี้เราก็ต้องคำนึงถึงข้อนี้ ทั้งนี้มั่นในในระบบการคัดกรองคนที่ทุจริต เราจะไม่ยอมให้คนที่ทุจริตผ่านเข้าเป็นตำรวจเด็ดขาด"พล.ต.อ.เดชณรงค์กล่าว

นอกจากนี้ได้มอบหมายให้ผู้บัญชาการแต่ละภาค ไปตรวจสอบซ้ำอีกครั้งเพื่อความเชื่อมั่น  โดยมีการนำหลักนิติวิทยาศาสตร์เข้ามาร่วมตรวจสอบด้วย แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดว่าจะมีกระบวนการขั้นตอนอย่างไรรวมทั้ง ให้ตรวจสอบเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง มีการมอบหมายให้จเรตำรวจไปตรวจสอบด้วย

พล.ต.อ.เดชณรงค์ กล่าวถึงแรงจูงใจที่มีการทุจริตเฉพาะ บช.น. กับ บช.ภ.7 ว่า ทั้ง2กองบัญชาการมีพื้นที่อยู่ใจกลางและใกล้เมืองหลวง เป็นศูนย์รวมผู้ที่มีความรู้ ความสามารถเป็นจำนวนมาก ประกอบกับ บช.ภ.7 มีพื้นที่ติดกับกรุงเทพมหานคร ทำให้คนเก่งเหล่านี้ทางไปมาสะดวกปะปนเข้ามาร่วมสอบเพื่อทุจริตได้ง่ายกว่ากองบัญชาการภาคอื่นๆ ส่วนการดำเนินกับผู้ทุจริตขณะนี้อยู่ระหว่างรวบพยานหลักฐานและออกหมายจับจำนวนหนึ่งแต่ไม่ขอเปิดว่ามีจำนวนเท่าไหร่

นอกจากนี้ได้มอบหมายให้กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) เข้าไปร่วมตรวจสอบกับ บช.น. ในการสืบสวนสอบสวน หากพบคนกระทำความผิดมากกว่านี้จะต้องเร่งดำเนินการ โดยขณะนี้ พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รองผบช.น. อยู่ระหว่างการรวบรวม พยานหลักฐาน เพื่อออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้อง