posttoday

รองโฆษก ตร. ยัน เว็บศปก.ตร.ยังปกติแต่เฝ้าระวังเข้ม

22 ธันวาคม 2559

แฮกเกอร์ล้วงคอเจาะเว็บ ศปก.ตร. รองโฆษก ตร. ยันตั้งการ์ดสูงไม่กระทบฐานข้อมูล

แฮกเกอร์ล้วงคอเจาะเว็บ ศปก.ตร. รองโฆษก ตร. ยันตั้งการ์ดสูงไม่กระทบฐานข้อมูล

เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พ.ต.อ. กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีที่ เพจของกลุ่มพลเมืองต่อต้าน single gateway thailand  firewall internet ได้ประกาศทางเว็บไซต์ว่าสามารถแฮกระบบปฏิบัติการของศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติซึ่งมีการประชุม เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยมีการแจกตัวเลขไอพีแอดเรส ของระบบศูนย์ปฏิบัติการดังกล่าว  ว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมาการประชุมภายในศปก.ตร. ไม่มีปัญหาใดๆ ตัวเลขไอพี ดังกล่าวเป็นเพียงตัวเลข ในการเข้าระบบเท่านั้นซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีการข่าวและเฝ้าระวังในเรื่องดังกล่าวอยู่ก่อนแล้วจึงวางมาตรการป้องกันไว้

สำหรับกรณีที่หลายหน่วยงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ  ถูก กลุ่มบุคคลดังกล่าวเข้าทำการแฮกระบบคอมพิวเตอร์นั้น รองโฆษกตร.กล่าวว่า  ได้ทำการแก้ไขให้กลับสู่ภาวะปกติเรียบร้อยแล้วและไม่ก่อให้เกิดความเสียหายกับฐานข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงและตัวบุคคลของประชาชนและเจ้าหน้าที่ จากการตรวจสอบ พฤติการณ์ของกลุ่มดังกล่าว  มีการเชิญชวนให้ ร่วมกันเจาะข้อมูลเพื่อทำลายระบบ  ยืนยันว่าตำรวจมีวิธีการสืบสวน แกะรอยจาก ไอพีแอดเดรส  หากพบว่า ผู้ใดเป็นผู้เชิญชวนให้กลุ่มบุคคลเข้าเจาะข้อมูลเว็บไซด์ของทางราชการ จะมีความผิดตามประมวลกฏหมายอาญามาตรา 116 ฐานยุยงปลุกปั่นชักชวนให้บุคคลร่วมกระทำผิด ส่วนผู้ที่หลงเชื่อหลงกระทำผิด จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯด้วย

รองโฆษกตร.กล่าวว่า ตำรวจพร้อมรับแจ้งความร้องทุกข์ โดยมอบหมายให้ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท.  ดูแล กรณีที่มีหน่วยงานใดได้รับความเสียหายจากการถูกเจาะข้อมูล ซึ่งในกรณีนี้ต้องดูพฤติกรรมว่า การกระทำผิด เป็นลักษณะของการเข้าถึงข้อมูล ของเว็บไซต์ หรือ เป็นการเจาะเข้าไปทำลายข้อมูลสำคัญ ของเว็บไซต์ ซึ่งถือเป็นความผิดทางอาญา โดยหน่วยงานที่เป็นผู้เสียหายสามารถฟ้องเอาผิดทางแพ่ง ฐานละเมิดทำให้เสียหาย กับผู้ที่กระทำผิดได้อีกทางหนึ่ง และจากข้อมูลที่ได้รับรายงาน ยอมรับว่าเว็บไซต์ของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค1 มีกลุ่มบุคคลพยายามที่จะเจาะข้อมูล แต่ทางตำรวจสามารถดำเนินการแก้ไขได้ทัน จึงทำให้ไม่ได้รับความเสียหาย กลุ่มบุคคลที่คิดกระทำผิด จะมีความผิดทางอาญา พร้อมยืนยันว่า ร่าง พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯ มีเจตนา คุ้มครองความสงบสุขของประเทศ จึงไม่ต้องกังวลว่าจะถูกนำไปใช้ในการริดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชนทั่วไป