posttoday

ปล้นฆ่าแท็กซี่ ภัยร้ายที่ยังอยู่

17 ธันวาคม 2559

กลับมาหลอกหลอนอีกครั้ง กับกรณีที่คนขับรถแท็กซี่ถูกฆ่าชิงทรัพย์ในรายล่าสุด เมื่อผู้โดยสารได้กลายร่างเป็นมิจฉาชีพร้าย

โดย...ไซเรน

กลับมาหลอกหลอนอีกครั้ง กับกรณีที่คนขับรถแท็กซี่ถูกฆ่าชิงทรัพย์ในรายล่าสุด เมื่อผู้โดยสารได้กลายร่างเป็นมิจฉาชีพร้าย กระหน่ำใช้อาวุธปืนยิงคนขับแท็กซี่ดับคารถ พร้อมกับชิงเงินและหลบหนี

คนขับแท็กซี่อาจจะเรียกได้ว่าเป็นอาชีพที่ต้องเสี่ยงอยู่ไม่น้อย เพราะต้องแลกกับเงินจากคนที่ไม่รู้จัก และต้องอยู่ในรถร่วมกันเพื่อรับส่งตามที่ต้องการ

วิธีการที่จะหลีกหนีภัยร้ายสำหรับคนขับรถแท็กซี่ ง่ายที่สุดคือต้องไม่รับโจรขึ้นรถ เรื่องนี้กองบัญชาการตำรวจนครบาลแนะนำเอาไว้ แต่ว่ากันตามจริง เราจะรู้ได้อย่างไรกันว่าใครคือโจร ใครคือลูกค้าผู้โดยสาร

การสังเกตพฤติกรรมของผู้โดยสารจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง โดยวิธีป้องกันด้วยการสังเกต กองบัญชาการตำรวจนครบาล แนะนำเอาไว้ดังนี้

1.จากสถิติพบว่าคนร้ายส่วนใหญ่จะเป็นชายวัยรุ่น มีอาการเมาสุรา หรือมีลักษณะติดยาเสพติด และมักมีอย่างน้อย 2 คนขึ้นไป

2.เส้นทางผ่าน หรือจุดหมายปลายทางที่จะไปส่งผู้โดยสาร มักจะเป็นสถานที่เปลี่ยว หรือเป็นที่ที่ไม่ค่อยมีผู้คนสัญจรไปมา หรือไม่ค่อยมีอาคารบ้านเรือนตั้งอยู่มากนัก

3.ขณะที่โดยสารอยู่ในรถแท็กซี่ คนร้ายมักจะไม่ค่อยพูดคุยกันตามปกติ สายตามักจะหลุกหลิก มองซ้าย-ขวา-หน้า-หลัง อยู่บ่อยๆ เพื่อคอยดูลาดเลา

4.ถ้าหากคนขับรถแท็กซี่สังเกตและรวบรวมพิรุธได้ จนประเมินสถานการณ์ได้ว่ามีโอกาสเสี่ยงที่จะถูกจี้-ปล้นแล้ว อย่าพยายามขับรถต่อไป ให้รีบขับรถเข้าหาเจ้าหน้าที่ตำรวจที่พบเห็นทันที เพื่อลงไปแจ้งให้ตำรวจช่วยตรวจค้นอาวุธของผู้โดยสาร จะได้หมดความกังวลใจว่าผู้โดยสารที่นั่งมานั้นเป็นคนร้ายหรือไม่

5.กรณีตามเส้นทางที่ผ่านไม่พบเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเลย ให้หยุดรถในที่ชุมชน ร้านค้า ร้านอาหาร หรือปั๊มน้ำมัน โดยทำทีว่าเครื่องยนต์ขัดข้อง เพื่อหาเหตุขอยกเลิกรับจ้างการโดยสาร โดยคนขับรถแท็กซี่จะต้องถอดกุญแจรถแล้วรีบลงไปอยู่นอกรถให้ปลอดภัยไว้ก่อน แล้วรีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที

ทั้ง 5 ข้อถือเป็นทางรอดของคนขับแท็กซี่ที่ต้องเผชิญความสุ่มเสี่ยงในการหาเงินเพื่อเลี้ยงชีพ