posttoday

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวสืบสานพระราชปณิธานร.9

02 ธันวาคม 2559

นายกฯเผยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวสืบสานพระราชปณิธานรัชกาลที่9ทรงนำศาสตร์พระราชาไปขยายผล ตั้งโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่และพระราชทานทุนการศึกษานักเรียนยากจน

นายกฯเผยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวสืบสานพระราชปณิธานรัชกาลที่9ทรงนำศาสตร์พระราชาไปขยายผล ตั้งโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่และพระราชทานทุนการศึกษานักเรียนยากจน

เมื่อเวลา 20.15น.พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ” ออกอากาศทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร
รัชกาลที่ 10 แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ ทรงเจริญรอยตามพระยุคลบาทในการสานต่อ“ศาสตร์พระราชา”ของในหลวงรัชกาลที่ 9 ขอให้ทุกคนร่วมกันตั้งจิตอธิษฐาน ขอพระบรมเดชานุภาพแห่งองค์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้โปรดให้สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระองค์ใหม่ ทรงพระเจริญ สถิตเป็นมิ่งขวัญปกเกล้าปกกระหม่อมอาณาประชาราษฎรชาวไทย รวมทั้งให้ทรงพัฒนาประเทศไทย ภายใต้การปกครองแบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จนประสบความสำเร็จ บังเกิดความเจริญรุ่งเรือง มีสันติสุขและความสามัคคีปรองดอง สมดังพระราชปณิธานปรารถนา  ตราบกาลนาน
        
หลายปีที่ผ่านมา โครงการในพระราชานุเคราะห์ และโครงการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีมากมายหลายโครงการ นอกจากจะทรงเจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาทแล้ว ยังเป็นการน้อมนำ“ศาสตร์พระราชา”แห่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ไปขยายผล ที่ล้วนเป็นคุณประโยชน์อย่างอเนกอนันต์ต่อพสกนิกร ทั่วทุกพื้นที่ของประเทศ อาทิเช่น “โครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่” ซึ่งได้รับพระราชทานพระราชานุญาตอัญเชิญพระนามาภิไธยย่อไว้ในเครื่องหมายตราสัญลักษณ์โครงการ เป็นโครงการที่ให้ความสำคัญกับการใช้เทคโนโลยีการเกษตรหรือนวัตกรรมที่เหมาะสม ช่วยเพิ่มผลผลิตและสร้างแรงจูงใจในการกระตุ้นเศรษฐกิจภาคการเกษตร ด้วยการสร้างความเชื่อมโยงระหว่างองค์กรวิจัยและพัฒนาภาคการเกษตร กับกลุ่มเกษตรกรเป้าหมาย ในการให้คำปรึกษาด้วยความรู้และบริการทางวิชาการใหม่ๆ, การตรวจวิเคราะห์และวินิจฉัย, รวมทั้ง การให้บริการด้วยอุปกรณ์และเครื่องมือทางห้องปฏิบัติการ ที่มุ่งเน้นการเข้าถึงเกษตรกรโดยตรง นับว่าสามารถตอบสนองทั้งความต้องการและทันต่อเหตุการณ์ด้วย 
         
นอกจากนี้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลปัจจุบัน ได้เคยพระราชทานที่ดินส่วนพระองค์ ในพื้นที่อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 1,350 ไร่ให้กับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อดำเนินการในลักษณะ “คลินิกเกษตร”เพื่อเผยแพร่ผลงานวิจัยและเทคโนโลยีการเกษตร จากศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ อันเนื่องมาจากพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 โดยแบ่งพื้นที่ ร้อยละ 70 เป็นพื้นที่ป่าไม้ สำหรับพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยววนเกษตรในลักษณะเส้นทางเดินป่าสำหรับการศึกษาธรรมชาติ และพื้นที่ส่วนอื่นๆ ที่เหลือ เป็นที่ตั้งศูนย์เรียนรู้ พื้นที่ทรงงาน และแปลงสาธิต เพื่อการพัฒนาการเกษตรแบบครบวงจร ประกอบด้วย การจัดระบบอนุรักษ์ดินและน้ำ, การฟื้นฟูปรับปรุงดิน , การพัฒนาแหล่งน้ำ และการส่งเสริมอาชีพ เป็นต้น
         
นอกจากนี้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระองค์ใหม่ ทรงให้ความสำคัญกับด้านการศึกษา ทรงมีพระราชดำริให้ดำเนินการ“โครงการทุนการศึกษา”ด้วยพระราชปณิธานที่มุ่งสร้างความรู้ สร้างโอกาสแก่เยาวชนไทย โดยเฉพาะที่มีฐานะยากจน  ลำบาก แต่ประพฤติดี มีความสามารถในการศึกษาให้ได้รับโอกาสทางการศึกษาที่มั่นคงต่อเนื่อง  ตามความสามารถของแต่ละคน  เป็นการลงทุนเพื่อพัฒนาความรู้ความสามารถและเพิ่มศักยภาพแก่เยาวชนไทย ให้เข้าถึงระบบการศึกษาที่มีมาตรฐาน เพื่อลดความเหลื่อมล้ำในสังคม ในอนาคต ต่อมาได้จัดตั้งเป็น “มูลนิธิทุนการศึกษาพระราชทาน สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร” (หรือ ม.ท.ศ.) ขึ้น อีกทั้ง ทรงมีพระราชดำริ ให้กำหนดหลักเกณฑ์การพระราชทานทุน และวิธีการคัดเลือก คัดสรร และกลั่นกรองนักเรียนที่มีคุณสมบัติเหมาะสม เพื่อรับทุนการศึกษาพระราชทาน ในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ทั้งสายสามัญ และสายอาชีพ ต่อเนื่องไปจนจบการศึกษาในระดับปริญญาตรี ในสาขาวิชาที่สอดคล้องกับความรู้ ความสามารถ และความต้องการของผู้เรียน ที่สำคัญ ทรงให้ยึดหลักให้มีการกระจายทุนครบในทุกจังหวัดและให้มีความเท่าเทียมระหว่างเพศของผู้รับพระราชทานทุนด้วย ปัจจุบันมีนักเรียนได้รับโอกาสทางการศึกษาอย่างต่อเนื่อง กว่า 1,000 คน.