posttoday

พิธีกรรายการทีวีแจ้งความจับ 18 มงกุฎ

30 กันยายน 2559

พิธีกรสาวรายการ “ลุกแล้วรวย” ร้องกองปราบฯ ถูก 18มงกุฎ อ้างชื่อหลอกเงินชาวบ้าน

พิธีกรสาวรายการ “ลุกแล้วรวย”  ร้องกองปราบฯ ถูก 18มงกุฎ อ้างชื่อหลอกเงินชาวบ้าน

วันที่ 30 ก.ย. น.ส.รวิฌา ทังสุบุตร อายุ 32 ปี พิธีกรรายการ “ลุกแล้วรวย” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 (ททบ.) พร้อมทนายความ รวมทั้ง นายสมบูรณ์ มียพัฒน์ อายุ 56 ปี เจ้าของร้านข้าวผัดปูเมืองทอง สาขาแจ้งวัฒนะ 14 , สุขาภิบาล 5 และไมอามี่ บางปู และนายมณเฑียร เงินหลั่งทวี อายุ 56 ปี เจ้าของร้านหมูกรอบนายไซ ประชาชื่น กทม.เดินทางเข้าพบ พ.ต.ต.ณัฐพล รัตนมงคลศักดิ์ สารวัตรกองกำกับการ 1 กองปราบปราม แจ้งความดำเนินคดีผู้ที่แอบอ้างชื่อ น.ส.รวิฌา หลอกลวงผู้เสียหายที่เคยออกรายการดังกล่าว โดยขอรับเงินบริจาคอ้างว่าจะไปมอบให้ที่บ้านเด็กราชวิถี ไปแจกอาหาร โดยจะมีรายการโทรทัศน์อื่นร่วมกิจกรรมด้วย ทั้งที่ไม่เป็นความจริง โดยนำเอกสารสำเนาการโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารและเอกสารที่เกี่ยวข้องมามอบไว้เป็นหลักฐาน

น.ส.รวิฌา กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งตนไม่ทราบมาก่อนว่าถูกแอบอ้างชื่อไปใช้หลอกลวงผู้เสียหาย แต่หลังจากนายสมบูรณ์ ซึ่งเคยมาออกรายการตนแจ้งมาว่าทางรายการเรียกรับเงินบริจาคดังกล่าว ตนจึงรีบปฏิเสธไป แต่ขณะนั้นตนยังอยู่ต่างจังหวัดเมื่อทราบเรื่องจึงรีบตรวจสอบทันที อย่างไรก็ดี สำหรับพฤติการณ์ของคนร้ายจะใช้วิธีการเช่าโทรศัพท์มือถือจากร้านค้าในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี โทรศัพท์ไปหลอกลวงเหยื่อ ส่วนบัญชีธนาคารที่ใช้ในการรับโอนเงินไปนั้น เบื้องต้นพบว่ามี 2 บัญชี และเป็นคนละชื่อกัน รวมมูลค่าเสียหายเบื้องต้นกว่า 12,500 บาท แต่น่าจะยังมีผู้เสียหายอีกหลายรายที่ถูกหลวงลวง เพราะล่าสุดเมื่อวันที่ 29 กันยายนที่ผ่านมา ก็มีผู้เสียหายอีก 2 ราย ที่สอบถามมาทางรายการด้วย

ขณะที่นายสมบูรณ์ ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 24 กันยายนที่ผ่านมา ได้รับการติดต่อทางโทรศัพท์แจ้งว่าติดต่อมาจากพิธีกรรายการลุกแล้วรวย อ้างว่าจะมีการจัดงานเลี้ยง ขอให้หาคนมาช่วยงาน รวมทั้งช่วยซื้อกระเป๋าเด็ก ปากกา รองเท้า ฯลฯ ตนก็คิดว่าพอจะช่วยเหลือได้ จากนั้นปลายสายระบุว่าขอให้ช่วยโอนเงินจำนวน 10,000 บาทมาแทน แล้วจะให้ทีมงานไปหาซื้อของให้เอง ตนเห็นว่าพอจะช่วยเหลือได้และจะได้ร่วมทำบุญไปด้วย จึงโอนเงินจำนวนดังกล่าวไปให้ ครั้งแรกไม่ได้คิดอะไร แต่ภายหลังก็สอบถามไปที่บ้านราชวิถี แต่เนื่องจากเป็นวันหยุดพอดีจึงติดต่อไม่ได้

นายสมบูรณ์ เปิดเผยด้วยว่า หลังจากโอนเงินไปให้แล้ว ในช่วงเย็นวันเดียวกัน ก็มีโทรศัพท์ติดต่อมาหาขอให้ตนโอนเงินเพิ่มให้อีก 3,000 บาท โดยมีการแอบอ้างเบื้องสูงด้วย ทำให้ตนรู้สึกเริ่มเอะใจ ก่อนจะติดต่อไปทางรายการดังกล่าว ทำให้ทราบว่าน่าจะเป็นการหลอกลวง เมื่อทาง น.ส.รวิฌา ทราบเรื่องก็มีการตรวจสอบไปยังผู้เสียหายอีกหลายๆ ราย จนพบว่า นายมณเฑียร ก็เป็นอีกรายที่ถูกแอบอ้างลักษณะเดียวกัน และมีการโอนเงินไปให้แล้วนับตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
  

ขณะเดียวกัน นายมณเฑียร กล่าวว่า ช่วงที่ได้รับการติดต่อทางโทรศัพท์กรณีขอรับเงินบริจาค ตนเห็นว่าพอช่วยเหลือได้ จึงโอนเงินไปให้ครั้งแรก 1,400 บาท แต่แล้วกลับมีการอ้างถึงบุคคลชั้นสูง เกี่ยวกับกรณีการได้รับเข็มที่ระลึก ซึ่งจะต้องบริจาคเงินเพิ่มเติม ครั้งแรกตนปฏิเสธว่าไม่ขอรับเข็มดังกล่าวได้หรือไม่ แต่อีกฝ่ายก็จะอ้างว่าส่วนใหญ่คนที่บริจาคก็จะขอรับเข็มกันทั้งนั้น ทำให้เกิดหลงเชื่อยอมโอนเงินไปให้อีก 1,100 บาท รวมเป็นเงิน 2,500 บาท ก่อนจะมาทราบในภายหลังว่าถูกหลอกลวง และมีผู้ที่ถูกหลอกลวงเช่นเดียวกับตนอีกหลายราย โดยที่ทางรายการไม่ทราบเรื่องแต่อย่างใด