posttoday

ตร.เร่งรวบรวมประวัติผู้พ้นโทษคดีทางเพศป้องกันก่อเหตุซ้ำ

22 กันยายน 2559

ตำรวจประสานกระทรวงยุติธรรมรวบรวมประวัติผู้พ้นโทษคดีทางเพศ เพื่อติดตามพฤติกรรมป้องกันการก่อเหตุซ้ำ

ตำรวจประสานกระทรวงยุติธรรมรวบรวมประวัติผู้พ้นโทษคดีทางเพศ เพื่อติดตามพฤติกรรมป้องกันการก่อเหตุซ้ำ

เมื่อวันที่ 22 ก.ย.เมื่อวันที่ 22 ก.ย. พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.)  พ.ต.อ.ดร.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม ร่วมกับตำรวจ กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) ตำรวจกองปราบปราม  กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมเพื่อหารือในการจัดทำประวัตินักโทษที่มีความผิดเกี่ยวกับเพศหลังจากได้รับการลดโทษและปล่อยตัว  เพื่อป้องกันการกลับมาก่อเหตุซ้ำ

พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันท์ อธิบดีกรมคุมประพฤติ เปิดเผยว่า ขณะนี้พบว่ามีผู้ที่พ้นโทษกลับมาก่อเหตุซ้ำจำนวนมาก ซึ่งทางสตช.มีข้อกังวลเพราะเรือนจำที่ไม่เคยส่งประวัติผู้พ้นโทษมาให้กับทางตำรวจทั้งๆที่ทางสตช.มีระเบียบการตำรวจที่17เรื่องการทำบัตรประวัติบุคคลผู้พ้นโทษและการรายงานพฤติกรรม ซึ่งระเบียบดังกล่าวลงนามโดย พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ผบ.ตร. เมื่อวันที่ 8 เม.ย 58 เพื่อออกมารองรับพรฏ.อภัยโทษ โดยขอให้ส่งประวัติผู้พ้นโทษไปยังสถานีตำรวจและสถานีตำรวจภูธรทั่วประเทศให้รวบรวมแยกแยะรายชื่อผู้พ้นโทษจากทางเรือนจำและทัณฑสถานเพื่อให้ตำรวจทำประวัติและติดตามพฤติกรรมรวมทั้งดูและไม่ให้คนเหล่านี้กลับไปกระทำผิดซ้ำ หรือเป็นอันตรายต่อสังคม แต่จะต้องไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชน

อธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวว่า ในส่วนของกระทรวงยุติธรรมทั้งกรมคุมประพฤติและกรมราชทัณฑ์ยังไม่มีระเบียบปฎิบัติชัดเจนที่จะส่งประวัติผู้พ้นโทษในคดีดังกล่างส่งให้กับตำรวจ ดังนั้นทางกรมราชทัณฑ์และกรมคุมประพฤติจะต้องประชุมร่วมกันเพิ่อทำคำสั่งให้ชัดเจนเพื่อออกมารองรับนักโทษที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษโดยในวันที่ 23 ก.ยตนจะนำผลจากการประชุมร่วมกับตำรวจรายงานให้ นายชาญเชาวน์ไชยานุกิจ ปลัดกระทรวงยุติธรรมรับทราบ  เพื่อเสนอให้กระทรวงยุติธรรมออกกฎระเบียบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้รัดกุมในวันที่ 22 ก.ย. เพราะขณะนี้ตำรวจมีความพร้อมทั้งแนวทางปฏิบัติและข้อกฎหมายชัดเจนแล้ว

พล.ต.ท.ฐิติราช กล่าวว่า สืบเนื่องจากทุกๆปลายปี จะมีการปล่อยตัว และลดโทษให้นักโทษที่ถูกคุมขังของราชทัณฑ์  ตนจึงเป็นห่วงว่าบุคคลเหล่านี้อาจจะกลับมาก่อเหตุซ้ำได้  โดยเฉพาะความผิดเกี่ยวกับทางเพศ ที่หลังจากเกิดเหตุ ตรวจสอบแล้วพบว่า คนร้ายมักมีประวัติติดตัวว่าเคยต้องโทษในคดีดังกล่าวมาก่อน  วันนี้จึงเชิญหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องมาร่วมประชุม เพื่อหารือ และขอความร่วมมือในการทำประวัติเหล่าผู้ต้องขังที่จะถูกปล่อยตัวส่งมอบให้ตำรวจ เพื่อเฝ้าระวัง ติดตามพฤติกรรมความเคลื่อนไหวป้องกันไม่ให้กลุ่มคนดังกล่าว กลับมาก่อเหตุซ้ำได้อีก โดยจะขอความร่วมมือให้ทางเรือนจำ ,ทัณฑสถานและสถานกักขัง ส่งรายชื่อผู้พ้นโทษให้กับสถานีตำรวจที่อยู่ในเขตรับผิดชอบ เพื่อง่ายต่อการสืบค้นตรวจสอบข้อมูล

พล.ต.ท.ฐิติราช กล่าวต่อว่า สำหรับการติดตามพฤติการณ์และความเคลื่อนไหวผู้พ้นโทษนั้น มอบหมายให้ตำรวจท้องที่ที่ผู้พ้นโทษไปพำนักอยู่ประสานกับผู้นำท้องถิ่น เพื่อสอบถามข้อมูลผู้พ้นโทษรายนั้นๆ ในเรื่องการประกอบอาชีพ การดำรงชีวิตแต่ละวัน ประกอบกับรายได้ว่าเพียงพอกับการใช้ชีวิตหรือไม่ จากนั้นให้ทำบันทึกรายงานผลการปฏิบัติให้หัวหน้าสถานีตำรวจทราบทุกวันที่ 1 ของเดือน  ส่วนในกรณีที่ผู้พ้นโทษย้ายภูมิลำเนาออกไปอยู่นอกพื้นที่  ขอให้ตำรวจในพื้นที่เดิมนำสำเนาประวัติของผู้ที่พ้นโทษ ส่งให้ตำรวจในท้องที่ใหม่ เพื่อติดตามพฤติการณ์ต่อไป  อย่างไรก็ตามขอให้ตำรวจพื้นที่ หน่วยงานปกครอง เฝ้าสังเกตพฤติกรรมบุคคลพ้นโทษอย่างจริงจัง ไม่ให้ก่อเหตุซ้ำ