posttoday

พ่อร้องผบก.น.3เร่งติดตามตัวคนร้ายราดน้ำมันเดือดใส่ลูกสาหัส

20 กันยายน 2559

ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมพาพ่อของวัยรุ่นอายุ16ปีเข้าร้อง ผบก.น.3 ให้เร่งติดตามคนร้ายใช้น้ำมันเดือดราดตัวลูกจนบาดเจ็บสาหัส

ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมพาพ่อของวัยรุ่นอายุ16ปีเข้าร้อง ผบก.น.3 ให้เร่งติดตามคนร้ายใช้น้ำมันเดือดราดตัวลูกจนบาดเจ็บสาหัส

จากกรณีสมาชิกเฟซบุ๊กได้โพสต์ภาพ พร้อมข้อความร้องขอความเป็นธรรมให้กับลูกชายวัย 16 ปี ที่ถูกทำร้ายร่างกายด้วยการนำน้ำมันทอดราดตัวจนได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 21.30 น. วันที่ 20 มิ.ย. บริเวณใกล้เคียงร้านสะดวกซื้อย่านเคหะร่มเกล้า และได้เข้าแจ้งความที่ สน.ร่มเกล้า เมื่อวันที่ 22 มิ.ย.แต่ยังไม่มีความคืบหน้านั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 20 ก.ย. เวลา 11.30 น. ที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 3 ( บก.น.3) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พร้อมนายสถาพร มณเฑียร อายุ 45 ปี บิดาของวัยรุ่นอายุ 16 ปี เข้าพบพล.ต.ต.ชัยพร พานิชอัตรา ผบก.น.3 พ.ต.อ.รังสรรค์ ประดิษฐผล ผกก.สน.ร่มเกล้า เพื่อขอความเป็นธรรมให้เร่งรัดติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็ว

นายสถาพร กล่าวว่า ขณะที่ลูกชายได้ขี่จักรยานยนต์ไปซื้อลูกชิ้นที่ร้านค้าแถวบ้านย่านเคหะร่มเกล้า เมื่อไปถึงร้านได้ขับผ่านกลุ่มชาย 3 คน ซึ่งกำลังตั้งวงดื่มสุรากันอยู่ และได้เตือนลูกชายว่าขี่จักรยานยนต์เสียงดัง จากนั้นลูกชายก็ได้เข้าไปขอโทษแล้ว และเดินกลับมารอลูกชิ้น แต่กลุ่มคนดังกล่าวกลับเดินตามมา และนำน้ำมันทอดลูกชิ้นมาราดตัวลูกชาย จนต้องวิ่งหนีเข้าไปในร้านสะดวกซื้อ รวมถึงยังตามมาและพังประตูกระจก เข้ามาทำร้ายลูกชายต่อ แต่โชคดีที่มีพลเมืองดีเข้ามาช่วยเหลือได้ทัน และนำตัวส่งโรงพยาบาล

ด้าน พล.ต.ต.ชัยพร กล่าวว่า หลังจากทราบเรื่องก็ได้เร่งรัดเพื่อทำความจริงให้ปรากฎและจะให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย โดยจะดูตามพยานหลักฐานที่ปรากฎ ในวันนี้ก็ได้เชิญคู่กรณีทั้งนายวิรัตน์ ศรีภูมิ อายุ 38 ปี ซึ่งได้แย่งไม้กวาดจากลูกชายนายสถาพรและต่อสู้กัน จนถูกนายวรเกียรติศรีวงษ์ อายุ 35 ปี เอาน้ำมันทอดลูกชิ้นราดตัวลูกชายนายสถาพรจนได้รับบาดเจ็บ โดยมีนายออน ผลแก้ว อายุ 57 ปี พ่อค้าขายไก่ทอดที่นั่งดื่มสุราอยู่บริเวณจุดเกิดเหตุมาสอบถามหาความจริงให้กระจ่างชัดจากทั้ง 2 ฝ่าย

ด้านนายวิรัตน์ กล่าวว่า โดยปกติก็นั่งดื่มสุราอยู่บริเวณร้านสะดวกซื้ออยู่เป็นประจำอยู่แล้ว และไม่เคยมีเรื่องกับใคร ในวันเกิดเหตุมีวัยรุ่นขี่รถจักรยานยนต์เสียงดัง ตนจึงเข้าไปตักเตือน ต่อมากลุ่มวัยรุ่นประมาณ 2-3 คน ก็ได้ย้อนกลับมาพร้อมชักปืนขึ้นมา ยิงใส่พวกตนแต่โชคดีที่ไม่โดน จนเป็นชนวนให้เกิดเหตุทะเลาะวิวาทกันขึ้น ส่วนตนโดนลูกชายของนายสถาพรใช้ไม้กวาดตี จากนั้นจึงได้แย่งไม้กวาดมา และมีการชุลมุนกันเกิดขึ้น ระหว่างที่ตนกำลังล็อคตัวลูกชายนายสถาพรอยู่ นายวรเกียรติก็นำน้ำมันราดใส่ลูกชายนายสถาพรทำให้ตนก็โดนน้ำมันราดไปด้วย ก็ได้พยายามติดต่อให้นายวรเกียรติเข้ามามอบตัวแต่ทราบว่าได้หลบหนีไปแล้ว

อย่างไรก็ตามวัยรุ่นวัย 16 ปี ยังคงพักรักษาอาการบาดเจ็บอยู่ทางนายอัจฉริยะจึงได้ต่อสายโทรศัพท์ให้ทางฝั่งผู้เสียหายได้เล่าเหตุการณ์บ้าง โดยวัยรุ่นวัย 16 ปี กล่าว ยอมรับว่าขี่รถจักรยานยนต์เสียงดังจริง ก็ได้ยกมือไหว้ขอโทษไปแล้ว จากนั้นก็ได้รอเพื่อนมารับเพื่อที่จะไปเปลี่ยนรถเนื่องจากรถมีปัญหา ระหว่างรอก็ได้ซื้อลูกชิ้นกิน ต่อมากลุ่มนายวิรัตน์ก็ได้เดินเข้ามาหาตน ขณะเดียวกันมีวัยรุ่นอีก 2 คน ได้เข้ามาพร้อมกัน ก่อนที่วัยรุ่นทั้ง 2 คนจะชักปืนออกมายิงลงพื้นไปทางกลุ่มที่เดินมา ก่อนหลบหนีไป ซึ่งตนไม่รู้จักกับวัยรุ่น 2 คนนี้ จากนั้นกลุ่มผู้ก่อเหตุก็ได้ตรงมาทำร้ายตน พร้อมทั้งใช้น้ำมันราดตัว ตนจึงต้องวิ่งหนีขอความช่วยเหลือหลบเข้าไปในร้านสะดวกซื้อ

พล.ต.ต.ชัยพร กล่าวว่า หลังทราบเรื่องก็ได้เร่งรัดจนมีการออกหมายจับนายวรเกียรติในข้อหาทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนที่มีข้อสงสัยว่าจะเป็นการพยายามฆ่า เนื่องจากแพทย์บอกว่าหากมารับการรักษาช้าอาจทำให้เสียชีวิตได้ ก็จะต้องไปขอผลการตรวจของแพทย์มาประกอบหากพบว่าเข้าข่ายจริงก็สามารถขอเพิ่มข้อหาเป็นพยายามฆ่าได้

ทั้งนี้ขณะนี้ออกหมายจับเพียงคนเดียว ก็ต้องสอบสวนต่อว่าบุคคลอื่นร่วมด้วยหรือไม่ เพราะขณะนี้ทั้ง 2 ฝ่ายยังให้การไม่ตรงกัน ตำรวจจะต้องดำเนินการสอบสวนพยานที่อยู่ในเหตุการณ์เพิ่มเติมให้ครบถ้วนก่อน ซึ่งเชื่อว่าในวันเกิดเหตุมีพยานที่อยู่ในเหตุการณ์ไม่ต่ำกว่า 10 คน ซึ่งขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำเสร็จสิ้นไปแล้ว 4-5 ปาก อย่างไรก็ตามยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย ส่วนการติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดียืนยันว่าจะติดตามตัวมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด