เตือนบินไทยระวังบิ๊กไทเกอร์ทิ้งหุ้น

โสภณให้รอบคอบขึ้นแค่เอ็มโอยูล้มได้/ปิยสวัสดิ์ยันเดินหน้าไม่กระทบตั้งไทย ไทเกอร์

โสภณแนะการบินไทยต้องพิจารณาให้รอบคอบ หลังผู้บริหารไทเกอร์ แอร์เวย์ส ขายหุ้นออกล็อตใหญ่ พร้อมจี้ชี้แจงรายละเอียดมากระทรวง

นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม เปิดเผยถึงกรณีผู้บริหารสายการบิน ไทเกอร์ แอร์เวย์ส สิงคโปร์ขายหุ้นจำนวนมาก รวมทั้งมีข่าวว่าลดเที่ยวบินเนื่องจากนักบินทยอยลาออก ขณะที่ก่อนหน้านี้ บริษัท การบินไทย ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจร่วมกัน (เอ็มโอยู) เพื่อจัดตั้งสายการบิน ไทย ไทเกอร์ แอร์เวย์ส ว่า ยังไม่ทราบรายละเอียดเรื่องนี้ ส่วนการจัดตั้งยังอยู่ในขั้นตอนดำเนินการ แค่เซ็นเอ็มโอยูเท่านั้น ซึ่งถือว่ายังสามารถเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ ไม่มีผลผูกพันกัน และเรื่องนี้ทางบริษัท การบินไทย จะต้องไปพิจารณาในรายละเอียดให้เกิดความรอบคอบ ส่วนประเด็นที่ซักถามไปก่อนหน้านี้ ขณะนี้ยังไม่ได้รับคำชี้แจงจากการบินไทย

“ไม่จำเป็นต้องทบทวน เพราะโครงการยังอยู่ในขั้นตอนดำเนินการ ยังไม่ได้มีข้อตกลงผูกพันกัน และเชื่อว่าเมื่อมีปัญหานี้เกิดขึ้น ทางฝ่ายบริหารการบินไทยคงจะต้องมีการพิจารณาศึกษาในรายละเอียดให้เกิดความรอบคอบมากขึ้น” นายโสภณ กล่าว

นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย กล่าวว่า ผู้ถือหุ้นของสายการบิน ไทเกอร์ แอร์เวย์ส ได้ขายหุ้นไปรวมกันประมาณ 66 ล้านหุ้น หรือ 12.3% ออกมาในตลาด การบินไทยขอยืนยันกรณีดังกล่าวไม่มีผลกระทบต่อการจัดตั้งสายการบินต้นทุนต่ำ ไทย ไทเกอร์ แอร์เวย์ส และการบินไทยแต่อย่างใด

ทั้งนี้ บริษัท ไทเกอร์ แอร์เวย์ส โฮลดิงส์ ได้เปิดเผยข้อมูลไปยังนักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ ประเทศสิงคโปร์ว่า การขายหุ้นครั้งนี้ขายได้ในราคาที่ต่ำกว่าราคาตลาดเพียงเล็กน้อย ซึ่งเป็นข้อยืนยันว่า บริษัทมีแนวโน้มดีและเป็นการเพิ่มความคล่องในตลาดและขยายการลงทุนในหุ้นของ Tiger Holding การขายหุ้นดังกล่าว เนื่องจากสายการบิน ไทเกอร์ แอร์เวย์ส มีผลประกอบการที่ดีขึ้น และทำให้ราคาหุ้นของสายการบินดังกล่าวสูงขึ้น 30% จากราคาหุ้นละ 1.50 เหรียญสิงคโปร์ ตั้งแต่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เดือน ก.พ. 2553

นายโชคชัย ปัญญายงค์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายกลยุทธ์และพัฒนาธุรกิจ บริษัท การบินไทย กล่าวว่า การบินไทยยังไม่ได้รับทราบเรื่องมาก่อนว่ามีผู้ถือหุ้นในไทเกอร์ แอร์เวย์ส สิงคโปร์ ขายหุ้นออกไป แต่ขณะนี้ได้ให้ฝ่ายบริหารและฝ่ายการเงินได้ทำการวิเคราะห์ว่าการขายหุ้นดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อการจัดตั้งสายการบินต้นทุนต่ำ ในนามของสายการบิน ไทย ไทเกอร์แอร์เวย์ส ที่ร่วมทุนจัดตั้งกับการบินไทยหรือไม่ ในเบื้องต้นเห็นว่า หากไม่มีผลกระทบต่อการจัดตั้งสายการบินต้นทุนต่ำก็จะยังดำเนินการต่อไป แต่หากมีผลกระทบทางฝ่ายบริหารจะต้องมาหารือในรายละเอียดกันอีกครั้งหนึ่ง

“ต้องไปพิจารณาในรายละเอียดกันอย่างรอบคอบว่า การขายหุ้นของผู้ถือหุ้นในไทเกอร์ แอร์เวย์ส ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างการบริหารงานและโครงสร้างผู้ถือหุ้นในไทเกอร์ แอร์เวย์ส หรือไม่หากไม่กระทบต่อการจัดตั้ง สายการบินต้นทุนต่ำ ก็เดินหน้าต่อไปได้ ซึ่งการบินไทยต้องเร่งหาข้อเท็จจริง เพื่อสรุปต่อไป” นายโชคชัย กล่าว

นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อมูลที่การบินไทยส่งมา เห็นว่าไม่ค่อยมีรายละเอียดอะไรเท่าไร อาจจะต้องให้การบินไทยเสนอข้อมูลมาเพิ่มอีก

ด้านรายงานข่าวแจ้งว่า ราคาหุ้นของสายการบิน ไทเกอร์ แอร์เวย์ส ในการซื้อขายที่ตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ร่วงลงมากถึง 3.5% อันเป็นผลหลังจากที่ โทนี เดวิส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของสายการบินได้ขายหุ้นในราคาลดออกไปล็อตใหญ่

บลูมเบิร์ก รายงานว่า เดวิสได้ขายหุ้นออกไปถึง 65.8 ล้านหุ้น ในราคาที่หุ้นละ 1.90 เหรียญสหรัฐ ให้กับกลุ่มนักลงทุนสถาบันแบบเจาะจง อย่างไรก็ตาม ไม่ได้ระบุว่าหุ้นที่ถูกขายออกไปนั้น ได้ขายไปให้กับนักลงทุนรายละปริมาณเท่าใด

เหว่ย ซิม นักวิเคราะห์สถาบันวัย แมคไควร์ สิงคโปร์ ให้ความเห็นว่าการขายหุ้นล็อตใหญ่ดังกล่าวเป็นสัญญาณบอกว่าราคาหุ้นที่ผ่านมาอาจจะแพงเกินไป

ก่อนหน้านี้ ซิมเคยปรับลดอันดับหุ้นของไทเกอร์ แอร์เวย์ส จากระดับเทียบเท่าตลาดมาอยู่ที่ระดับต่ำกว่าตลาด ทั้งๆ ที่ไทเกอร์ แอร์เวย์ส สามารถทำกำไรได้ในไตรมาส 2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว หลังจากปริมาณผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 39% ในช่วงดังกล่าว