posttoday

ศาลฎีกาจำคุก 2 ปี "อมเรศ-วิชรัตน์"คดีขายหนี้เน่า ปรส.

26 สิงหาคม 2559

ศาลฎีกาสั่งจำคุก 2 ปีปรับ 20,000 บาท อดีตประธาน-เลขา ปรส. คดีขายขายหนี้เน่า ปรส. เมื่อปี 2541 รอลงอาญา 3 ปี

ศาลฎีกาสั่งจำคุก 2 ปีปรับ 20,000 บาท อดีตประธาน-เลขา ปรส. คดีขายขายหนี้เน่า ปรส. เมื่อปี 2541 รอลงอาญา 3 ปี

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 26 ส.ค. ที่ห้องพิจารณา 905 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาคดีดำ อ.3344/2551 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายอมเรศ ศิลาอ่อน อายุ 83 ปีอดีตประธานคณะกรรมการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน (ปรส.)นายวิชรัตน์ วิจิตรวาทการ อายุ 69 ปี อดีตเลขาธิการ ปรส. บริษัท เลแมน บาเดอร์ส โฮลดิ้ง อิงค์ จำกัด โดยนาย ชาร์ล เจสัน รูบิน (CHARLES JASON RUBIN) ผู้รับประโยชน์ บริษัทเลห์แมน บราเธอร์ส โฮลดิ้งส์ อิงค์   (ประเทศไทย) จำกัด โดยนาย ชาร์ล เจสัน รูบิน (CHARLES JASON RUBIN) ที่ปรึกษา ปรส.กองทุนรวมโกลบอลไทย พร็อพเพอร์ตี้ ผู้รับโอนสิทธิจากการประมูลสินทรัพย์ และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมวรรณ จำกัด ผู้จัดตั้ง กองทุนรวมโกลบอลไทย ฯ เป็นจำเลยที่ 1- 6 ในความผิดฐานร่วมกันกระทำผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงาน ในองค์การ หรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา11

จากกรณีไม่เรียกเก็บเงินงวดแรกในการขายสินทรัพย์ให้กับบริษัทเลห์แมน บราเธอร์ส โฮลดิ้งส์ อิงค์ ซึ่งเป็นจำเลยที่ 3 ในคดีนี้ จำนวน 2,304 ล้านบาท ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้เมื่อปี 2541

สำหรับคดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกนายอมเรศ และนายวิชรัตน์ 2 ปี ปรับ 20,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษ 3 ปี ส่วนจำเลยที่ 3-6 ยกฟ้อง ต่อมาเมื่อปี 2557 ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ยกฟ้องนายอมเรศ และนายวิชรัตน์

ศาลฎีกาประชุมตรวจสำนวนพิเคราะห์แล้วเห็นว่านายอมเรศ และนายวิชรัตน์ จำเลยที่ 1 และ 2 ทำให้การประมูลขายทรัพย์สินไม่โปร่งใส ไม่คำนึงจำเลยที่ 3 ที่เป็นนิติบุคคลต้องห้ามในการเข้าร่วมประมูล เนื่องจากเป็นบริษัทในเครือของนายชาร์ล เจสัน รูบิน ที่ปรึกษา ปรส.จำเลยที่ 4 ทำให้การจัดการประมูลมีผู้ได้ประโยชน์และเสียประโยชน์ การกระทำของจำเลยที่ 1 และ 2 จึงเข้าข่ายการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่

ศาลฎีกาจึงไม่เห็นพ้องกับศาลอุทธรณ์ พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้จำคุกนายอมเรศ และนายวิชรัตน์ เป็นเวลา 2 ปี ปรับ 20,000 บาท โดยโทษจำคุกให้รอลงอาญา 3 ปี

นายอมเรศ เปิดเผยภายหลังฟังคำพิพากษาเพียงว่า ตนยอมรับคำตัดสิน ยืนยันที่ผ่านมาตนทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวมตลอด จึงอยากเตือนคนรุ่นหลังหากจะทำอะไรเพื่อส่วนรวมก็ขอให้คิดให้ดี เพราะผลที่ออกมาสุดท้ายก็เป็นเรื่องส่วนตัวอยู่ดี

ภาพ http://www.tnamcot.com/content/543675