ศธ.จ่อโละแอดมิชชั่น

ชงล้มระบบรับตรง ให้ใช้ข้อสอบเดียวกันทั่วประเทศ ปลัด ศธ.เผยคล้าย "เอนทรานซ์" แต่เลือกสาขาได้ 2 รอบ

นพ.กำจร ตติยกวี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ผลการประชุมแก้ไขปัญหาระบบการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อในสถาบันอุดมศึกษาได้ปรับระบบการรับนิสิต นักศึกษา เข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัย โดยเปลี่ยน

แนวทางการรับตรงใหม่ ด้วยการปรับช่วงเวลาการสอบต่างๆ ทั้งแกต หรือการทดสอบความถนัดทั่วไป และแพต ความถนัดทางวิชาการ-วิชาชีพ รวมถึง 9 วิชาสามัญ และข้อสอบอื่นๆ หลังเด็กเรียนครบหลักสูตร ม.6 แล้วประมาณ 2 สัปดาห์

ปลัด ศธ. กล่าวอีกว่า ขั้นตอนการสอบแบบใหม่จะแก้ไขปัญหาในปัจจุบันที่มีการจัดสอบก่อนเด็กจบ ม.6 ทำให้นักเรียนชั้น ม.5 เตรียมสอบกันโกลาหล โดย ศธ.จะไม่ยอมให้มีการสอบนอกช่วงเวลานี้ เพื่อลดการวิ่งรอกสอบตรงของเด็ก

"จากนั้นเมื่อเด็กทราบคะแนนของ ตัวเองแล้ว จะเปิดรับสมัครด้วยระบบรับตรงกลางร่วมกัน หรือเคลียริ่งเฮาส์ 2 ครั้ง จากเดิมเพียง 1 ครั้ง เปิดโอกาสให้เด็กสามารถนำคะแนนไปยื่นเลือกได้ 4 อันดับสาขาวิชาและมหาวิทยาลัยที่ต้องการ โดยมหาวิทยาลัยจะประกาศกติกาและคุณสมบัติของเด็กที่จะเข้าเรียนให้ทราบล่วงหน้า" นพ.กำจร กล่าว

ทั้งนี้ เมื่อเด็กยื่นคะแนนไปยังมหาวิทยาลัยแล้ว มหาวิทยาลัยจะส่งชื่อเด็กที่ผ่านการคัดเลือกเข้าระบบเคลียริ่งเฮาส์ และแจ้งกลับไปยังเด็กว่าได้รับการคัดเลือกกี่แห่ง และจะเลือกเรียนตามลำดับที่สอบได้หรือไม่

นพ.กำจร กล่าวอีกว่า หากเด็กยัง ไม่พอใจก็สามารถยื่นคะแนนเข้าสู่ระบบเคลียริ่งเฮาส์อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม หากตัดสินใจเลือกสาขาวิชาที่ต้องการใน รอบแรกแล้วจะไม่สามารถเข้าสู่ระบบ เคลียริงเฮาส์อีกครั้ง

ขณะเดียวกัน อาจดูเหมือน ศธ.กลับไปทำระบบคล้ายกับเอนทรานซ์ แต่ระบบนี้เด็กจะรู้คะแนนล่วงหน้า เพื่อประเมินได้ว่าจะไปแข่งกับใคร ในหลักสูตรใด โดยหากปรับมาใช้ระบบนี้ ศธ.จะไม่อนุญาตให้มหาวิทยาลัยเปิดรับตรงเอง โดยหากจะเปิดรับก็ต้องมีเหตุผลมาชี้แจงให้ รมว.ศธ.รับทราบ

"ด้วยระบบนี้คิดว่าจะสามารถรับเด็กเข้าเรียนได้ประมาณ 90% ส่วนที่เหลืออีก 10% เด็กสามารถไปสมัครเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยที่ยังมีที่นั่งว่างได้โดยตรงอีกครั้งหนึ่ง" ปลัด ศธ.กล่าว

อย่างไรก็ตาม แนวทางดังกล่าวยังไม่สามารถดำเนินการได้ในการรับนิสิตนักศึกษาในปีการศึกษา 2560 เนื่องจากมีการประกาศหลักเกณฑ์ไปแล้ว โดยจะสามารถเริ่มต้นได้ในปีการศึกษา 2561

ภาพประกอบข่าว