posttoday

ฎีกายกฟ้อง"เจิมศักดิ์"ไม่หมิ่น"คิงส์พาวเวอร์

03 สิงหาคม 2559

ศาลฎีกา ยกฟ้อง "เจิมศักดิ์" คดี คิงส์พาวเวอร์ ฟ้องหมิ่น กล่าวหาขายของเถื่อนหนีภาษี ชี้ เป็นการทำหน้าที่สื่อมวลชน วิจารณ์โดยสุจริต

ศาลฎีกา ยกฟ้อง "เจิมศักดิ์" คดี คิงส์พาวเวอร์ ฟ้องหมิ่น กล่าวหาขายของเถื่อนหนีภาษี ชี้ เป็นการทำหน้าที่สื่อมวลชน วิจารณ์โดยสุจริต

วันที่ 3 ส.ค. เวลา 09.30 น. ที่ห้องพิจารณา 709ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาคดีหมายเลขดำ อ.1822/2554ที่ บริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัดโดยนายรัฎฐาปกรณ์ ทับปั้น ผู้รับมอบอำนาจ เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ผู้ดำเนินรายการวิเคราะห์ข่าวชื่อดังและอดีตสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) เป็นจำเลย ในความผิดฐาน ดูหมิ่นด้วยการโฆษณา และหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 , 328 , 332

ตามฟ้องโจทก์ ระบุว่า เมื่อวันที่10 ก.พ.53 เวลากลางคืน จำเลยในฐานะผู้ดำเนินรายการ"ลงเอย อย่างไร"ได้ ดูหมิ่นโจทก์ด้วยการโฆษณาและหมิ่นประมาทโจทก์โดยการโฆษณา ในการจัดรายการตอน"ของเถื่อน ภาษีเถื่อน"ที่ออกอากาศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง11ซึ่งทำให้โจทก์เสียหายแก่ธุรกิจ ว่า เป็นบริษัทขายสินค้าเถื่อนหนีภาษีเถื่อนให้แก่บุคคลทั่วไป เป็นบริษัทไม่ดี ฉ้อโกงภาษีอากรของรัฐบาล

โดยศาลชั้นต้น มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 26 ก.ย.56 ให้ยกฟ้อง เนื่องจากชั้นพิจารณา มีหลักฐานเป็นคลิปวีดีโอยืนยันถึงการทดลองสั่งซื้อสุรา ไวน์ และแชมเปญ จำนวนหลายลังจากบุคคลหนึ่ง โดยไม่ต้องมีหนังสือเดินทางและตั๋วเครื่องบิน ซึ่งสินค้าทั้งหมดถูกใส่อยู่บรรจุภัณฑ์ที่มีชื่อบริษัทของโจทก์ติดอยู่ที่ถุงและมีผู้นำมาส่งให้ถึงที่บ้าน จึงเชื่อว่าสามารถสั่งซื้อสินค้าปลอดศุลกากรจากบริษัทโจทก์ได้จริง ซึ่งเป็นการพิสูจน์ได้ว่า คำพูดที่จำเลยกล่าวในรายการเป็นเรื่องจริง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 330 การกระทำของจำเลยจึงไม่ความผิดฐานหมิ่นประมาท

ต่อมา บริษัท คิง เพาเวอร์ฯ โจทก์ยื่นอุทธรณ์ ซึ่งศาลอุทธรณ์ มีคำตัดสินเมื่อวันที่ 9 พ.ค.58 พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น เห็นว่า การกระทำของจำเลย เป็นการแสดงความคิดเห็นหรือข้อความโดยสุจริต ติชมด้วยความเป็นธรรม ซึ่งบุคคลหรือสิ่งใด อันเป็นวิสัยของประชาชนย่อมกระทำได้ จำเลยไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาทฯ

ขณะที่โจทก์ ยื่นฎีกา โดยวันนี้นายเจิมศักดิ์ จำเลย เดินทางมาศาลโดยมีไม้เท้าพยุงตัวเนื่องจากมีอาการปวดหลัง เพื่อมาฟังคำพิพากษาพร้อมทนาย

โดยศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษา หารือกันแล้ว เห็นว่า การกระทำของจำเลยในการจัดรายการ เป็นการตั้งคำถามตั้งข้อสงสัย กับ รมว.คลังในรายการ ซึ่งเป็นการวิพากษ์วิจารณ์ในฐานะสื่อมวลชน โดยสุจริต ที่วิญญูชนคนทั่วไปก็สามารถวิพากษ์วิจารณ์ได้ และขณะที่การตั้งข้อสงสัยนั้น จำเลยก็ดำรงตำแหน่งคณะกรรมการ บ.การท่าอากาศยานฯ ซึ่งถือว่าทำหน้าที่ตรวจสอบและรักษาผลประโยชน์ให้กับรัฐ การกระทำดังกล่าวจึงไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น จึงพิพากษายืนให้ยก ฟ้อง

ภายหลังศาลฎีกามีคำพิพากษายกฟ้อง นายเจิมศักดิ์  กล่าวว่า กล่าวว่าดีใจที่ศาลพิพากษายกฟ้อง โดยการจัดรายการก็ทำหน้าที่ในฐานะสื่อมวลชน โดยการพูดในรายการเป็นการกล่าวในภาพรวมเพื่อให้ รมว.คลัง ดูแลมาตรการบุหรนี่และสุราที่ลักลอบนำเข้ามาในประเทศตามด่านต่างๆ ไม่ได้เจาะจง ขณะที่ไม่คิดจะฟ้องกลับ เพราะได้ต่อสู้คดีมายาวนานแล้ว แต่อยากให้บริษัทเอกชนช่วยปรับปรุงการทำงานที่มีปัญหา ส่วนรัฐก็ควรตรวจสอบการลักลอบขนส่งสินค้าหนีภาษีให้เข้มข้น ขณะที่ตนยังคงจะปฏิบัติหน้าที่ตรวจสอบในฐานะสื่อมวลชนต่อไป