posttoday

ขนส่งฯลงดาบเเท็กซี่ลูบขาผู้โดยสารสาว ยอมรับเสพยามาก่อน

23 มิถุนายน 2559

กรมการขนส่งทางบก ลงโทษหนัก ทั้งผู้ประกอบการและคนขับ กรณีถูกแฉภาพลูบขาผู้โดยสารสาว

กรมการขนส่งทางบก ลงโทษหนัก ทั้งผู้ประกอบการและคนขับ กรณีถูกแฉภาพลูบขาผู้โดยสารสาว

จากกรณีที่มีหญิงสาวรายหนึ่งเเชร์เรื่องราวผ่านสังคมออนไลน์ ว่าถูกคนขับรถแท็กซี่ หมายเลขทะเบียน ทม 5960 กรุงเทพมหานคร เเสดงพฤติกรรมกิริยาวาจาไม่สุภาพในลักษณะอนาจาร โดยเหตุเกิดขณะใช้บริการจากซอยสุขุมวิท 11 เพื่อไปซอยอ่อนนุช 46 เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. ที่ผ่านมา จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารย์อย่างกว้างขวางในโลกออนไลน์นั้น

ล่าสุด เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 23 มิ.ย. พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย ผกก.กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส. นำกำลังตำรวจ บก.สส.และ ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.พระโขนง เดินทางไปยัง สหกรณ์แท็กซี่ อาสาสมัคร จำกัด ถนนสาธุประดิษฐ์ แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กทม. เพื่อเชิญตัวนายสมชาย สิมลี อายุ 43 ปี คนขับแท็กซี่คันดังกล่าวมาสอบสวน

เบื้องต้นนายสมชาย ให้การรับว่าเป็นผู้ขับขี่รถยนต์แท็กซี่ในวันเวลาที่เกิดเหตุจริงพร้อมยืนยันว่าหญิงสาวที่ลงข้อความบนสื่อสังคมออนไลน์นั้นรู้จักกันมาก่อนเนื่องจากเคยไปรับไปส่ง

นายสมชาย ให้การอีกว่า ในวันเกิดเหตุรับผู้เสียหายมาพร้อมเพื่อนอีกคน จากซอยสุขุมวิท 11 ช่วงเวลาประมาณ 03.00 น. ให้ไปส่งที่ซอยอ่อนนุช 46 ระหว่างทางได้แวะส่งเพื่อนผู้เสียหายที่ซอยพัฒนาการ 25 จากนั้นได้มีการพูดเล่นกันและเนื่องเคยรู้จักกันมาก่อน จึงได้มีการนำมือไปลูบขาสองครั้ง ก่อนจะส่งที่ปากซอยอ่อนนุช 46 จนมาทราบข่าวจากทางตำรวจ เเต่ขอยอมรับว่าได้เสพยาเสพติดมาก่อนก่อเหตุจริง

ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวไปสำนักงานขนส่งทางบก เพื่อแจ้งฐานความผิดที่เกี่ยวกับ พรบ.ขนส่งฯ เบื้องต้นทำการ เปรียบเทียบปรับผู้ประกอบการตามมาตรา5(15),58ฐานไม่จัดส่งประวัติผู้ขับรถ โดยเปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 1,000บาท , เปรียบเทียบปรับผู้ขับรถตามมาตรา 5(15),58/1 ฐานการอันควรขายหน้าต่อธารกำนัลหรือกระทำการลามกอย่างอื่น ในอัตราโทษสูงสุดเป็นเงิน 5,000บาท และพักใช้ใบอนุญาตผู้ขัยรถเป็นเวลา 6 เดือน และเนื่องจากผู้ประกอบการยินยอมให้ผู้ขับรถที่ใบอนุญาตขับรถสิ้นอายุมาขับรถ ซึ่งการกระทำดังกล่าว ไม่เป็นไปตามระเบียบกรมการขนส่งทางบกว่าด้วยการขอจดทะเบียนรถยนต์รับจ้าง(รถแท๊กซี่)ในเขตกรุงเทพมหานคร พ.ศ.2557ซึ่งจะได้ดำเนินการเพิกถอนทะเบียนรถแท๊กซี่คันดังกล่าวอีกด้วย

สำหรับในส่วนของเรื่องเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ได้ประสานตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.พระโขนง เพื่อกันร่วมกันขยายผลและพิจารณาดำเนินคดีผู้ต้องหาตามกฏหมายต่อไป อีกทั้งอยู่ระหว่างติดตามผู้เสียหายมาให้ปากคำเพื่อประกอบการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาตามฏหมายต่อไป

ภาพจาก www.fm91bkk.com