"บิ๊กต็อก"รับมีผู้ร้องเรียนให้ตรวจสอบสาขาวัดธรรมกายที่ปากช่อง

รมว.ยธ.รับมีผู้แจ้งเบาะแสสาขาธรรมกายอาจมีการรุกที่ดิน ชี้ศิษย์อ้างพร้อมคืนเงินบริจาค เปรียบเสมือนขโมยรถแล้วนำมาคืนก็ไม่พ้นผิด

เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีที่มีแจ้งเบาะแสให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)เข้าไปตรวจสอบการก่อสร้าง ศูนย์ปฏิบัติธรรม เวิร์ลพีซวัลเล่ย์ เขาใหญ่ สาขาวัดพระธรรมกายว่ามีการรุกล้ำที่ดินรัฐในพื้นที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมาหรือไม่ ว่า ตนรับทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว และได้สอบถามกับอธิบดีดีเอสไอก็ยอมรับว่ามีการร้องเรียนถึงเรื่องดังกล่าว  แต่เบื้องต้นตนยังไม่ได้สั่งการใดๆ เพราะเชื่อว่าเจ้าหน้าที่รู้ว่าอะไรควรทำหรือไม่ทำ ใครมีหน้าที่อะไรก็ดำเนินการตามนั้น  เจ้าหน้าที่ทำงานอยู่แล้ว อย่าไปกดดัน และก็ไม่ได้เร่งรัด เพราะไม่อยากให้มองว่าเลือกปฏิบัติ การดำเนินคดีทุกคดีที่เกี่ยวข้องกับวัดพระธรรมกายไม่มีนโยบายพิเศษ แค่ให้ทำให้เรียบร้อย ในส่วนของผู้เสียหายตนเข้าใจว่าอยากให้คดีแล้วเสร็จเพื่อได้เงินคืน

พล.อ.ไพบูลย์กล่าวอีกว่า ยังกล่าวถึงกรณีที่วัดพระธรรมกายออกมาระบุว่าหากมีหลักฐานเรื่องเงินบริจาคเพิ่มเติม 400 ล้านบาทจริงก็พร้อมคืนเงินให้นั้น ตนขอให้หลักคิดเหมือนการขโมยแล้วนำรถมาคืนโดยอ้างว่าคืนแล้วไม่ผิดกฏหมาย มันเป็นไปไม่ได้ เงินที่พูดถึงก็ต้องตรวจสอบว่าเป็นเงินที่ผิดกฏหมายหรือไม่ ต้องให้ความเป็นธรรมกับวัดด้วย หากพิสูจน์ว่าเงินผิดกฏหมายจะคืนหรือไม่คืนก็ผิดกฏหมาย แต่หากพิสูจน์แล้วว่าเงินไม่ผิดกฏหมายคืนหรือไม่คืนก็ไม่ผิดกฏหมาย ขณะนี้ดีเอสไออยู่ระหว่างการตรวจสอบ  สำหรับการขอหมายค้นรอบ 2 เป็นหน้าที่พนักงานสอบสวน หากพร้อมก็ทำได้ตลอดไม่สามารถบอกล่วงหน้าได้