posttoday

ต่างชาติเล็งพี่ไทยแหล่งผลิต สเตียรอยด์

09 สิงหาคม 2553

เหมือนจะเป็นคดีค้ายาเสพติดเล็กๆ ที่ตำรวจจับผู้ต้องหาได้ตามปกติ ซึ่งเห็นบ่อยครั้งในช่วงนี้ หรืออาจจะผิดแผกอยู่บ้างก็ตรงที่เป็นชาวต่างชาติ

เหมือนจะเป็นคดีค้ายาเสพติดเล็กๆ ที่ตำรวจจับผู้ต้องหาได้ตามปกติ ซึ่งเห็นบ่อยครั้งในช่วงนี้ หรืออาจจะผิดแผกอยู่บ้างก็ตรงที่เป็นชาวต่างชาติ

โดย...ธนก บังผล

เหมือนจะเป็นคดีค้ายาเสพติดเล็กๆ ที่ตำรวจจับผู้ต้องหาได้ตามปกติ ซึ่งเห็นบ่อยครั้งในช่วงนี้ หรืออาจจะผิดแผกอยู่บ้างก็ตรงที่เป็นชาวต่างชาติ

แต่ลึกลงไปในรายละเอียดแล้ว “ไม่ธรรมดา” เฉพาะแค่การประสานงานระหว่างกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ร่วมกับเจ้าหน้าที่ปราบปรามยาเสพติดของสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย หรือดีอีเอ และเจ้าหน้าที่จากประเทศสวีเดนย่อมแสดงให้เห็นว่า ต้องใช้เวลาตระเตรียมความพร้อมทั้งข้อมูลและบุคลากรเพื่องานนี้โดยเฉพาะ

ต่างชาติเล็งพี่ไทยแหล่งผลิต สเตียรอยด์

พล.ต.ต.แสงสูรย์ กรรณสูต ผู้บังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 1 (ผบก.ปส.1) บอกเล่าถึงเหตุการณ์เข้าจับกุม คิม โรเจอร์ อีริคส์สัน ชาวสวีเดน อายุ 29 ปี ซึ่งได้ขึ้นชื่อว่าเป็นนักค้ายาข้ามชาติตัวยง
แรกเริ่มวายร้ายรายนี้ค้ายาสเตียรอยด์ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการค้าขายรับออร์เดอร์ผ่านทางอินเทอร์เน็ต ตำรวจใช้เวลาสืบหาเบาะแสผู้ต้องหากว่า 1 ปี จนกระทั่งพบว่ามีความผิดปกติในการสั่งซื้ออุปกรณ์และน้ำยาเคมี

ตำรวจใช้ภาพถ่ายทางอากาศบันทึกภาพบ้านพักบนพื้นที่กว่า 2 ไร่ ใน ต.ชากพง อ.แกลง จ.ระยอง ห่างจากวัดสนามรัตนาวาสเพียง 100 เมตร ปรากฏว่ามีการต่อเติมโรงจอดรถ ซึ่งเคยใช้จอดรถหรู 2 คัน ออกไปอีก 2 ห้อง เพื่อทำห้องแล็บผลิตแอมเฟตามีน ประเภทยาบ้า ยาไอซ์ แบบครบวงจร

เมื่อสายสืบที่ส่งเข้าไปอยู่ในบ้านแจ้งว่า จะเป็นวันแรกของการผลิตแอมเฟตามีน ตำรวจจึงใช้กำลังชุด “สยบไพรี” 20 นาย คอยเฝ้าอย่างใจเย็นเพื่อรอให้ขั้นตอนของการผลิตยาเสพติดเข้าสู่กระบวนการแช่แข็งและตกผลึกเป็นเกล็ด จนกลายเป็นยาไอซ์ก่อนจะเข้าตรวจค้นทันที

จากการสืบสวนพบข้อมูล คิม โรเจอร์ เข้าประเทศไทยมา 3 ปีแล้ว และเดินทางเข้าออกประเทศไทยหลายครั้ง โดยมีชนักติดหลังในคดีอาวุธปืนต้องเดินทางไปขึ้นศาลประเทศสวีเดน
ไม่เพียงบ้านหลังนี้จะเป็นแหล่งผลิตยาไอซ์แล้ว ยังพบอีกว่าได้มีการติดต่อกับแก๊งมอเตอร์ไซค์ช็อปเปอร์และกลุ่มบาดีโดสซึ่งมีเครือข่ายอยู่ทั่วโลก ลักลอบขนน้ำยาเคมีเข้าประเทศไทย โดยหลายหน่วยงานยังไม่ทราบว่าเป็นน้ำยาเคมีที่ใช้ผลิตยาไอซ์

พล.ต.ต.แสงสูรย์ บอกว่า ได้ให้เจ้าหน้าที่แล็บจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เข้าตรวจสอบน้ำยา อุปกรณ์ ก็ได้รับการยืนยันว่าเป็นน้ำยาที่ใช้ผลิตยาเสพติดจริง โดยเฉพาะเครื่องมือที่ถูกสั่งนำเข้ามานั้น ป.ป.ส.ถึงกับตะลึงยอมรับว่าทันสมัยกว่าที่ไทยใช้อยู่ในปัจจุบันเสียอีก

น้ำยาเคมีในตู้เย็นที่เจอเป็นเมตแอมเฟตามีนไฮโดรคลอไรด์ หรือที่เรียกว่าเพียวแอมเฟตามีน ซึ่ง คิม โรเจอร์ มีเพื่อนที่เป็นนักเคมีได้แนะนำขั้นตอนการผลิต ภายในบ้านยังมีหนังสือเกี่ยวกับสารเคมีและวิธีการผลิต
หลักฐานตำตาแบบนี้พอถูกรวบคาหนังคาเขา ตำรวจสอบสวนปากคำผ่านทางภรรยาชาวไทย แต่วายร้ายต่างแดนกลับให้การปฏิเสธอ้างว่า กำลังผลิตสูตรน้ำยาล้างจานชนิดใหม่
“ซึ่งมันก็ผลิตน้ำยาล้างจาน น้ำยาล้างมือพวกสบู่เหลวจริงๆ ทีแรกก็ปฏิเสธ แต่จากหลักฐานแล้ว หลังๆ ก็แบ่งรับแบ่งสู้” พล.ต.ต.แสงสูรย์ กล่าว

หลังจากจับ คิม โรเจอร์ ได้ไม่กี่วัน พล.ต.ต.แสงสูรย์ ก็นำกำลังบุกตรวจค้นบ้านเลขที่ 3 ซอยสุดประเสริฐ 7 แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม กทม. หลังจากได้รับแจ้งว่าบ้านหลังดังกล่าวเป็นแหล่งผลิตยาสเตียรอยด์และยาไวอะกร้าโดยไม่ได้รับอนุญาต

ทั้งนี้ เป็นผลจากเจ้าหน้าที่ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่สหรัฐอเมริกา ว่ามีชาวอเมริกันลักลอบเปิดแหล่งผลิตยาสเตียรอยด์อยู่ในประเทศไทย สืบสวนจนทราบว่าแหล่งผลิตยาดังกล่าวอยู่ในย่านเจริญกรุง
รุ่ง สุนทรกนิษฐ์ อายุ 41 ปี ถูกจับกุมขณะจัดขวดยาและใส่พัสดุ ให้การว่า นายทุนเจ้าของแหล่งผลิตคือ โรมัน อาดัม อายุ 29 ปี ชาวอเมริกัน แต่พักอยู่ที่ประเทศฮ่องกง

เขาเช่าบ้านหลังนี้จากเธอในราคาเดือนละ1 หมื่นบาท พร้อมกับว่าจ้างให้ผลิตและเป็นผู้จัดส่งยาทั้งหมด โดยให้ค่าจ้างอีกเดือนละ 5 หมื่นบาท ซึ่งหนุ่มอเมริกันจะเป็นผู้ที่จัดหาสารตั้งต้นและจดสูตรในการผลิตยาเอาไว้ให้

ส่วนการซื้อขายจะสั่งสินค้าทางอินเทอร์เน็ตในเว็บไซต์ www.astealth.com และจัดส่งทางไปรษณีย์เท่านั้น ลูกค้าส่วนใหญ่จะอยู่ที่ประเทศสหรัฐ ฟิลิปปินส์ แถบอเมริกาใต้และเอเชีย

ความแนบเนียนอยู่ตรงการจัดส่ง ที่มีทั้งหลอด ทั้งซอง อำพรางในขวดน้ำพริกสารพัดรูปแบบ ตำรวจต้องใช้เวลาตามสืบคดีเกือบ 2 ปีจนรู้ว่าแหล่งผลิตอยู่ที่เจริญกรุง 79 และโอนเงินผ่าน Western Union
“โรมัน มีรายได้เดือนละ 47 ล้านบาท จากต้นทุนขวดละ 100 บาท แต่ขายเมืองนอกขวดละ 100 เหรียญสหรัฐ มีฐานการผลิตอยู่ที่ฮ่องกง ขับรถลัมโบกินี ซึ่งจะต้องขยายผลเพื่อทำการยึดทรัพย์ต่อไป” พล.ต.ต.แสงสูรย์ กล่าว

สำหรับข้อหานั้นตำรวจทำได้แค่เพียงตั้งข้อหาผลิตยาปัจจุบันที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียน มีโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท จำคุกไม่เกิน 3 ปี ยาปัจจุบันไม่ได้รับอนุญาต ปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท จำคุกไม่เกิน 5 ปี และผลิตยาปลอม จำคุกตั้งแต่320 ปี

“นั่นเป็นเพราะว่าสเตียรอยด์ในบ้านเราเข้ากฎหมายอาหารและยา แต่สำหรับอเมริกาถือว่าเป็นยาเสพติดร้ายแรง กฎหมายต่างกัน นั่นจึงเป็นสาเหตุว่าทำไมอาชญากรข้ามชาติเหล่านี้จึงเข้ามาใช้ไทยเป็นแหล่งผลิตและค้ายาเสพติด ค้าสเตียรอยด์เพิ่มขึ้น เพราะต้นทุนการผลิตถูก แล้วโทษต่ำ” พล.ต.ต.แสงสูรย์ กล่าว

น่าสลดใจเป็นอย่างยิ่งที่กรุงเทพฯ เมืองฟ้าอมรในปัจจุบัน ได้กลายเป็นแหล่งผลิตและส่งยาเสพติดทุกประเภทแบบครบวงจรไปแล้ว และยิ่งดูมืดมนลงเรื่อยๆ เมื่อเหล่าอาชญากรข้ามชาติได้เข้ามาทำให้สถานการณ์ระบาดรุนแรงเกินกว่ากำลังตำรวจท้องที่จะปราบปรามไหว แล้วใครละจะแก้ปัญหานี้!!!