posttoday

"กรมคุก"แถลงคุมตัว"อาเดม"ยึดหลักสากล-โวยวายเรียกร้องความสนใจ

18 พฤษภาคม 2559

กรมราชทัณฑ์ แถลงคุมตัว"อาเดม" ผู้ต้องหาคดีวางระเบิด แยกราชประสงค์ตามหลักสากล ตรวจร่างกายไม่พบรอยทำร้าย หลังโวยวายได้ขอโทษผู้คุม คาดทำไปเพราะเรียกร้องความสนใจ หวังผลทางคดี

กรมราชทัณฑ์ แถลงคุมตัว"อาเดม" ตามหลักสากล ตรวจร่างกายไม่พบรอยทำร้าย หลังโวยวายได้ขอโทษผู้คุม คาดทำไปเพราะหวังผลทางคดี

เมื่อวันที่ 18 พ.ค. นายกอบเกียรติ กสิวิวัฒน์ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม รักษาการอธิบดีกรมราชทัณฑ์ นายนิมิต ทัพวนานต์  รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ พร้อมด้วยนายอายุตม์ สินธพพันธุ์ ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ร่วมกันแถลงกรณีที่เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ได้นำตัว นายอาเดม คาราดัค ไปขึ้นศาลทหาร เมื่อวันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยตะโกนบอกผู้สื่อข่าวว่า “ผมไม่ใช่สัตว์ ผมเป็นมนุษย์ ผมเป็นมนุษย์ สิทธิมนุษยชนอยู่ไหน” และมีการร้องเรียนต่อศาลผ่านล่ามภาษาอุยกูร์ ว่าในขณะถูกควบคุมตัวถูกทำร้ายร่างกายถึง 2 ครั้ง ภายในเดือนนี้

นายกอบเกียรติ กล่าวว่า ตนชี้แจงข้อเท็จจริง 4 ข้อ คือ 1.เนื่องจากผู้ต้องขังในคดีนี้ คือ คดีวางระเบิดที่แยกราชประสงค์นี้ เป็นคดีที่เกี่ยวกับความมั่นคงและมีความร้ายแรง สร้างความเสียหายให้แก่สาธารณชน มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก เพื่อเป็นการรักษาความปลอดภัยและความมั่นคงของรัฐ และความเหมาะสมในเรื่องสถานที่ จึงนำตัว นายอาเดม และ นายไมไรลี ยูซูฟู คู่คดี ไปคุมขังที่เรือนจำชั่วคราวแขวงถนนนครไชยศรี ซึ่งตั้งอยู่ภายในมณฑลทหารบกที่ 11 (มทบ.11) โดยเป็นการยืมพื้นที่อาคารของหน่วยทหารมาประกาศเป็นเรือนจำชั่วคราวเท่านั้น แต่การบริหารงานและการควบคุมผู้ต้องขัง จะดำเนินการภายใต้การบริหารงานของเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ       

2.กรณีที่ นายอาเดม อ้างว่าถูกซ้อม ทำร้ายร่างกายถึง 2 ครั้ง ภายในเดือนนี้ ตนได้มอบหมายให้นพ.วีระกิตต์ หาญปริพรรณ์ ผอ.ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เข้าไปตรวจร่างกาย เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันนี้ ซึ่งนพ.วีระกิตต์ ซึ่งผลการตรวจร่างกายไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายตามที่ นายอาเดมกล่าวอ้าง

3.กรณีการจัดอาหารให้แก่  นายอาเดม ทางเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ได้จัดเตรียมอาหารดิบ นำไปปรุงที่เรือนจำชั่วคราวฯ ตามหลักศาสนาอิสลามให้รับประทาน และยังจัดอาหารเพิ่มเติมซึ่งเป็นอาหารสำเร็จจากร้านอาหารที่มีเครื่องหมายฮาลาลให้แก่ผู้ต้องขังด้วย

4.หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว เมื่อ นายอาเดมกลับมาถึงเรือนจำ ได้กล่าวขอโทษต่อนายบุญรักษ์ บุญญาธิการ หัวหน้าผู้ควบคุมเรือนจำชั่วคราวฯ ในเรื่องที่เกิดขึ้น พร้อมเข้ามากอดและกล่าวว่า “ขอโทษในเรื่องที่เกิดขึ้น ต่อไปจะปฏิบัติตนให้อยู่ในระเบียบวินัยของเรือนจำฯ” ซึ่งก็เข้าใจได้ว่า การแสดงออกดังกล่าว เป็นการเรียกร้องความสนใจ เพื่อให้องค์กรสิทธิมนุษยชนให้มาสนใจ ซึ่งก็อาจทำให้มีผลต่อรูปคดีของเขาได้"นายกอบเกียรติ กล่าวและว่า ทางเรือนจำเคยรายงานว่า นายอาเดม มีพฤติกรรมในการเรียกร้องความสนใจ เช่น การไม่รับประทานอาหาร และพยายามทำร้ายร่างกายตนเอง โดยการต่อยกำแพงห้องขังอยู่หลายครั้ง

ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่มีแพทย์เข้าไปตรวจร่างกาย นายอาเดม เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา มีภาพถ่ายมายืนยันเพื่อประกอบการแถลงข่าวหรือไม่ นายกอบเกียรติ กล่าวว่า ไม่มี เนื่องจากเมื่อเข้าไปภายในเรือนจำนั้น ไม่สามารถนำโทรศัพท์เข้าไปถ่ายภาพได้ อย่างไรก็ตาม นพ.วีระกิตต์ ได้รายงานให้ตนทราบแล้วเมื่อเวลา 12.00 น. ว่าไม่พบร่องรอยการทำถูกทำร้ายแต่อย่างใด ทั้งนี้ แพทย์มีจรรยาบรรณทางวิชาชีพอยู่แล้ว หากเขาโกหกก็อาจถูกเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพได้

นายกอบเกียรติ กล่าวต่อว่า ทุกสัปดาห์กรมราชทัณฑ์จะมีการส่งพยาบาล พร้อมด้วยล่าม เข้าไปตรวจสุขภาพและพูดคุยกับ นายอาเดม สัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพื่อดูว่าผู้ต้องขังมีอาการเจ็บป่วยหรือไม่ ทั้งนี้ เมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ทางเรือนจำได้เคยพา นายอาเดมออกไปรักษาอาการทางเดินปัสสาวะ ยังทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์แล้ว 1 ครั้ง

ถามต่อว่า การควบคุมผู้ต้องขังภายในเรือนจำมทบ.11 เจ้าหน้าที่ทหารได้เข้าเข้าไปร่วมควบคุมด้วยหรือไม่ รรท.อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า การดูแลผู้ต้องขังภายในเรือนจำฯ เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ ส่วนทหารดูแลเพียงภายนอกเท่านั้น ทั้งนี้ ปัจจุบันในเรือนจำดังกล่าว มีผู้ต้องขังที่อยู่ในการควบคุม 5 คน ประกอบด้วย คดีมาตรา 112, คดีปล้นปืน ย่านวังบูรพา และคดีขอนแก่นโมเดล และคดีระเบิดแยกราชประสงค์ อย่างไรก็ตาม การควบคุมตัวผู้ต้องขังทั้งสองรายในคดีนี้ เป็นไปตามหลักการสากล ไม่ว่าจะเป็นสภาพความเป็นอยู่ การจัดอาหาร การรักษาพยาบาล ตลอดจนการเปิดโอกาสให้ได้พบทนายความเพื่อปรึกษาคดีอย่างสม่ำเสมอ ดังนั้น จึงยืนยันว่าการที่ นายอาเดมอ้างว่าถูกทำร้ายร่างกายนั้นไม่เป็นความจริง

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายอาเดมเคยเรียกร้องในเรื่องของการย้ายเรือนจำหรือไม่ นายกอบเกียรติ กล่าวว่า สำหรับการย้ายเรือนจำยังไม่มีการพิจารณา เนื่องจากต้องดูทั้งข้อดีและข้อเสีย อีกทั้งคดีดังกล่าว ยังทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก ดังนั้น เราต้องดูหลายๆด้าน เพราะหากมีการย้ายเรือนจำเข้าไปอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เราก็ไม่ทราบว่าจะมีใครที่โกรธแค้น นายอาเดม และนำไปสู่การทำร้ายกายหรือไม่ ซึ่งเราต้องดูเรื่องความปลอดภัยของผู้ต้องขังด้วย

ถามต่อว่า หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ได้มีการพูดคุยกับ นายอาเดมแล้วหรือไม่ ถึงการกระทำดังกล่าว และจำเป็นหรือไม่ที่จะต้องส่งจิตแพทย์เข้าไปพูดคุยด้วยหรือไม่ นายกอบเกียรติ กล่าวว่า ยังไม่มีการพูดคุยกับ นายอาเดมถึงเหตุผลในการกระทำดังกล่าว เพราะเกรงว่าอาจจะเป็นการทำให้เกิดการต่อประเด็นไปมา ส่วนกรณีจะให้จิตแพทย์เข้าไปพูดคุยนั้น ตนมองว่า ยังไม่ถึงขนาดจะต้องส่งจิตแพทย์เข้าไปพูดคุย