สอบเหตุไฟเหนือ-ใต้

“พล.อ.อนุพงษ์” สั่งสอบหาต้นเหตุไฟเหนือ-ใต้ หากฝีมือมนุษย์ลงโทษขั้นเด็ดขาด

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สืบสวนหาสาเหตุของไฟไหม้ป่าขุนช่างเคี่ยน เขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เสียหายกว่า 290 ไร่ และไฟไหม้ป่าพรุ จ.นราธิวาส ลุกลามฝ่าแนวกันไฟเข้าไปในเขตป่าพรุสิรินธร หรือป่าพรุโต๊ะแดง เสียหายกว่า 2.5 พันไร่ ว่าเป็นฝีมือผู้ใด หากพบว่าบุคคลใดเป็นผู้กระทำจะถูกดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด

พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ไฟไหม้ป่าทั้งที่ จ.เชียงใหม่ และ จ.นราธิวาส นั้น สามารถควบคุมได้หมดแล้ว แต่ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดเพื่อสกัดไฟไม่ให้กลับมาปะทุขึ้นอีก ขณะเดียวกันยังได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่กระทรวงทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมท้องถิ่น ตลอดทั้งเจ้าหน้าที่ทหารลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือและดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบ

“สถานการณ์ไฟป่าในปีนี้ต้องเพิ่มมาตรการเฝ้าระมัดระวังและดูแลเป็นกรณีพิเศษ เพราะเกือบทุกพื้นที่ประสบปัญหาวิกฤตภัยแล้งหนักมาก โดยสิ่งที่กระทรวงมหาดไทยได้เตรียมการตลอดมา คือ ต้องเตรียมพร้อมตลอดทั้งกำลังคนและเครื่องมือที่จะรับสถานการณ์ไฟป่าที่จะเกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที” พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว

ด้าน พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ซึ่งอยู่ระหว่างการเดินทางไปปฏิบัติราชการที่ประเทศญี่ปุ่น มีความห่วงใยต่อเหตุการณ์ไฟป่าที่ จ.เชียงใหม่ และ จ.นราธิวาส แม้ว่าสถานการณ์จะคลี่คลายลงแล้ว

อย่างไรก็ตาม พล.อ.ธีรชัย ได้กำชับให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกองทัพบก และหน่วยทหารในพื้นที่เร่งบูรณาการกับทุกภาคส่วนร่วมกันเฝ้าระวังมิให้เกิดไฟปะทุซ้ำขึ้นมาอีกตามบัญชาของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)