posttoday

"ครูน้อย" แบกหนี้ไม่ไหวปิดบ้านเลี้ยงเด็กถาวร

09 พฤษภาคม 2559

นวลน้อย ทิมกุล ประกาศปิดบ้านรับเลี้ยงเด็กอย่างถาวร เนื่องจากทนแบกรับภาระค่าใช้จ่ายและหนี้สินไม่ไหว

นวลน้อย ทิมกุล ประกาศปิดบ้านรับเลี้ยงเด็กอย่างถาวร เนื่องจากทนแบกรับภาระค่าใช้จ่ายและหนี้สินไม่ไหว

เมื่อวันที่ 9 พ.ค. "ครูน้อย" นางนวลน้อย ทิมกุล ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ “ปากโป้ง” ทางช่อง 8 ว่า ได้เปิดสถานรับเลี้ยงเด็กมาตั้งแต่ปี 2523 แต่ละปีต้องดูแลเลี้ยงเด็กประมาณ 800 คน ทั้งกินอยู่ ส่งเรียน ค่าขนม ค่าใช้จ่ายทุกอย่าง แลกกับสิ่งเดียวที่ได้คือความสุขในชีวิตของคนเป็นครู

ที่ผ่านมายังอาศัยเงินของสามีที่เก็บไว้ให้ลูกแท้ ๆ ได้เรียนหนังสือไปใช้เลี้ยงเด็กคนอื่น สำหรับค่าใช้จ่ายในการเปิดบ้านเป็นสถานรับเลี้ยงเด็กตกอยู่ที่เดือนละประมาณ 2 แสนบาท เลี้ยงเด็กปกติ 60 คน และเด็กพิการอีก 5 คน ที่สมองไม่ปกติเป็นเด็กไฮเปอร์ ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด โดยยอมเป็นหนี้นอกระบบ นำเงินมาเป็นค่าใช้จ่าย ส่งเด็ก ๆ ไปเรียนหนังสือตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล จนถึงป.6 ให้เขาพอมีงานทำ มีรายได้เลี้ยงดูตนเอง ทำให้ทุกวันนี้มีหนี้ต้องใช้เขาอีกประมาณ 7-8 แสนบาท ยังไม่รวมกับบ้านหลังนี้ที่ติดจำนองธนาคาร ต้องหาเงินมาใช้หนี้

วันนี้จึงขอประกาศปิดบ้าน"ครูน้อย"ที่รับเลี้ยงเด็กอย่างเป็นทางการ เพราะที่ผ่านมา สังคมตั้งคำถามตลอดว่าเงินที่ได้หายไปไหนหมด ทั้งที่เอาไปใช้เลี้ยงดูทั้ง 65 ชีวิต ทั้งค่าอยู่กิน แม้เมื่อปี 2553 จะมีผู้ใหญ่ใจดียื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ โดยให้เงินมาจำนวน 5 แสนบาท ตนก็เอาไปใช้หนี้ ทุกอย่างมีหลักฐานเก็บไว้หมด แต่วันนี้ไม่ไหวแล้ว จึงต้องประกาศปิดบ้าน "ครูน้อย" อีกครั้ง

ครูน้อย บอกว่า เด็ก ๆ ที่อยู่ในความอุปการะ อยากให้มีผู้ใหญ่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลืออีกครั้ง เพราะไม่มีปัญญาส่งเสียแล้วจริง ๆ มันไปต่อไม่ได้แล้ว โดยตอนนี้พยายามทำทุกวิถีทาง ทั้งส่งเรื่องไปที่กรมกิจการเด็กและเยาวชนให้เข้ามาช่วยเหลือ ซึ่งกำลังรอว่าทางหน่วยงานดังกล่าวจะว่าอย่างไร และตอนนี้คิดจะขายบ้านทิ้ง พร้อมอยากจะขอโทษสังคมที่ต้องปิดบ้าน แต่อยากบอกว่าสิ่งใดที่พวกท่านให้มา ได้นำไปช่วยเหลือเด็กทุกคนอย่างเต็มที่แล้ว แม้ส่วนหนึ่งจะนำไปใช้หนี้ ไปส่งดอกเบี้ยบ้าง เพราะเงินที่ครูไปกู้มา ก็เอาไปช่วยเด็ก ที่สำคัญชีวิตครูตรวจสอบได้ว่าไม่เคยใช้เงินของเด็กเพื่อส่วนตัวนอกจากนำไปเป็นค่าอาหารใช้กินด้วยกัน