ทนายแจงรถพยาบาลฉุกเฉินมีสิทธิวิ่งเร็วเกินกำหนด

ทนายเกิดผล แก้วเกิด ชี้รถพยาบาลฉุกเฉินได้รับยกเว้นให้ขับรถเกินอัตราความเร็วที่กำหนดไว้  ตามพรบ.จราจรทางบก มาตรา 75 (3)

หลังจากกรณีโลกโซเชียลได้เผยแพร่ภาพถ่ายใบสั่งรถพยาบาลฉุกเฉิน โรงพยาบาลพิจิตร ในข้อหาขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด ออกโดยศูนย์ควบคุมความเร็วและกวดขันวินัยจราจรตำรวจภูธรพิษณุโลก ก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางว่าเจ้าหน้าที่ทำเกินกว่าเหตุ

ล่าสุดเมื่อวันที่ 28 ก.พ. นายเกิดผล แก้วเกิด ทนายความชื่อดัง ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ทนายเกิดผล แก้วเกิด ชี้แจงว่า รถพยาบาลฉุกเฉิน ได้รับยกเว้นตาม พรบ.จราจรทางบก มาตรา 75 (3) นั่นคือ มีสิทธิ์ขับรถเกินอัตราความเร็วที่กำหนดไว้

โดยเนื้อหาระบุว่า "รถฉุกเฉิน" ตาม พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.๒๕๒๒ มาตรา ๔ (๑๙) ให้นิยามคำว่า "รถฉุกเฉิน" หมายความว่า รถดับเพลิง และรถพยาบาลของราชการบริหารส่วนกลาง ราชการบริหารส่วนภูมิภาค และราชการบริหารส่วนท้องถิ่น หรือรถอื่นที่ได้รับอนุญาตจากอธิบดี(หรือผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ)ให้ใช้ไฟสัญญาณแสงวับวาบ หรือให้ใช้เสียงสัญญาณไซเรน หรือเสียงสัญญาณอย่างอื่นตามที่จะกำหนดให้

นอกจากนี้ สิทธิพิเศษของรถฉุกเฉิน มาตรา ๗๕ ในขณะที่ผู้ขับขี่รถฉุกเฉินไปปฏิบัติหน้าที่ ผู้ขับขี่มีสิทธิดังนี้ (๑) ใช้ไฟสัญญาณแสงวับวาบ ใช้เสียงสัญญาณไซเรน หรือเสียงสัญญาณอย่างอื่นตามที่อธิบดีกำหนดไว้ (๒) หยุดรถหรือจอดรถ ณ ที่ห้ามจอดรถ (๓) ขับรถเกินอัตราความเร็วที่กำหนดไว้ (๔) ขับรถผ่านสัญญาณจราจรหรือเครื่องหมายจราจรใด ๆ ที่ให้รถหยุดแต่ต้องลดความเร็วของรถให้ช้าลงตามสมควร (๕) ไม่ต้องปฏิบัติตามบทแห่งพระราชบัญญัติ หรือข้อบังคับการจราจรเกี่ยวกับช่องเดินรถ ทิศทางของการขับรถหรือการเลี้ยวที่กำหนดไว้ในการปฏิบัติตามวรรคหนึ่ง ผู้ขับขี่ต้องใช้ความระมัดระวังตามควรแก่กรณี

อย่างไรก็ตาม พล.ต.ต.อดิศักดิ์ น้อยประเสริฐ ผบก. ตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก ได้ออกมาเปิดเผยว่า กำลังตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า รถพยาบาลคันดังกล่าวได้ปฏิบัติหน้าที่จริงหรือไม่ เพราะที่ผ่านมามักมีรถฉุกเฉินหลายคันแอบอ้างขับรถเร็ว ทั้งที่ไม่มีผู้ป่วย หากขับรถเร็วระหว่างปฏิบัติหน้าที่จริงก็ไม่มีความผิด

ที่มาจากเฟซบุ๊ก https://www.facebook.com/profile.php?id=100010636963592&fref=ts