posttoday

"ศรีวราห์"ยันไม่พบไอเอสในไทย คดี"ประวุฒิ"ยึดตามกม.

20 กุมภาพันธ์ 2559

รองผบ.ตร. ยันไม่พบกลุ่มไอเอสเคลื่อนไหวในไทยแต่ไม่ประมาทสั่งจนท.เฝ้าระวัง เผย "พล.ต.อ.ประวุฒิ" ไม่อยู่ในไทย แต่ไม่กระทบกรณีเอาผิดม. 157ยันยึดกฎหมาย ปัดมีซื้อขายตำแหน่ง

รองผบ.ตร. ยันไม่พบกลุ่มไอเอสเคลื่อนไหวในไทยแต่ไม่ประมาทสั่งจนท.เฝ้าระวัง เผย "พล.ต.อ.ประวุฒิ" ไม่อยู่ในไทย แต่ไม่กระทบกรณีเอาผิดม. 157ยันยึดกฎหมาย ปัดมีซื้อขายตำแหน่ง

วันที่ 20 ก.พ.พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ประชุมผ่านวีดีโอคอนเฟอร์เร้นท์ ศูนย์ปฎิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อสั่งการข้อปฎิบัติราชการด้านความมั่นคงพร้อมยืนยันว่า ทางการข่าวยังไม่พบความเคลื่อนไหวของกลุ่มไอเอสในประเทศไทย หลัง ทางการสหรัฐอเมริกาแจ้งเตือนการก่อเหตุร้ายในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร และในเอกสารแจ้งเตือน ก็ไม่ได้ระบุชัดเจนว่า เป็นกลุ่มใดที่จะก่อเหตุแต่ก็ไม่ประมาทได้กำชับ การปฎิบัติให้กับกำลังพลหน่วยที่เกี่ยวข้อง ในการเฝ้าระวังป้องกันเหตุร้าย และ ย้ำว่า ตั้งแต่เกิดเหตุระเบิดแยกราชประสงค์ ตำรวจออกแผนปฎิบัติอย่างเข้มงวด ทั้งทางลับ และ มาตรการป้องกันปราบปราม โดยเฉพาะการเฝ้าระวังสถานที่ราชการสำคัญ และ สถานที่มีประชาชนรวมตัวกันจำนวนมาก อาทิ ห้างสรรพสินค้า และ สถานีรถไฟฟ้า

ส่วนกรณีชาวต่างชาติที่พำนักในประเทศไทยเกินเวลาหรือ over stay ได้สั่งการให้ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง(ตม.) เพิ่มความเข้มงวด และ ตรวจสอบเข้มตามมาตรการที่สั่งการไปแล้ว ขณะเดียวกันยังไม่พบข้อมูลว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้จะเข้ามาเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุในลักษณะที่ทางการสหรัฐอเมริกาแจ้งเตือนแต่อย่างใด

พล.ต.อ.ศรีวราห์ ยังยืนยันว่า พล.ต.อ.ประวุฒิ ถาวรศิริ อดีตโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขณะนี้ ไม่อยู่ในราชอาณาจักรไทย และไม่มีผลกระทบในการเรียกมารับทราบข้อกล่าวหา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หลังมีผู้ร้องทุกข์กรณีดำเนินการติดตั้งเสาส่งสัญญาณวิทยุบนอาคารตึกใบหยกเขตพญาไท กรุงเทพมหานคร พร้อมยืนยัน ตำรวจมีพยานหลักฐานว่า พล.ต.อ.ประวุฒิ มีความผิดในกรณีนี้ ซึ่งได้รวบรวมพยานหลักฐาน และส่งผลการสอบสวนถึงพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แล้ว ส่วนจะเข้าข่ายความผิดอื่น ๆ อีกหรือไม่ ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานประกอบสำนวนคดี ไม่สามารถเปิดเผยได้ และนอกจาก พล.ต.อ.ประวุฒิ ยังมีพยานหลักฐานที่จะดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีทั้งพลเรือน และข้าราชการ และส่วนตัวไม่กังวล เพราะทุกขั้นตอนเป็นไปตามกฎหมาย แม้ พล.ต.อ.ประวุฒิ เป็นอดีตข้าราชการตำรวจระดับสูงก็ตาม

นอกจากนี้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ ยังระบุกรณี อดีตนายทหารยศพลเอก โพสต์ข้อความทางโซเชียลมีเดีย ว่าจากการตรวจสอบแล้วพบว่ามีการโพสต์ทางแอพพลิเคชั่นไลน์ ระบุการซื้อขายตำแหน่งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติจริง โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้มอบหมายให้ ปอท. ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวแล้ว โดย ให้ พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก.เป็นผู้ควบคุมดูแล ซึ่งขณะนี้ทาง ปอท. ได้รับเลขคดีไปดำเนินการตามขั้นตอน ซึ่งเบื้องต้นพบว่า มีความผิดตามพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ในการเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จ ขณะเดียวกัน ส่วนตัวมั่นใจว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่มีการซื้อขายตำแหน่ง หรือวิ่งเต้น โดยเฉพาะสมัยที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นรองนายกรัฐมนตรี ส่วนจะมีการประสาน อดีตนายทหารยศพลเอก เข้ามาสอบสวนหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับพนักงานสอบสวน ยืนยันตำรวจทำงานอย่างเต็มที่ทุกขั้นตอน และทำการกฎหมายเชื่อว่ากรณีดังกล่าวไม่เป็นการทำลายภาพลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อย่างแน่นอน เพราะที่ผ่านมา สามารถคลี่คลายคดีสำคัญ ๆ ได้ทั้งหมด