posttoday

‘คันเร่งค้าง’ ปัญหาที่เจอได้ กับหนทางที่ต้องรอด

13 กุมภาพันธ์ 2559

การขับรถยนต์แม้ว่าจะมีสติเพียงใด แต่อุบัติเหตุก็มักจะเกิดขึ้นได้อย่างไม่เลือกเวลา

โดย...ไซเรน

การขับรถยนต์แม้ว่าจะมีสติเพียงใด แต่อุบัติเหตุก็มักจะเกิดขึ้นได้อย่างไม่เลือกเวลา

บ่อยครั้งที่จะเห็นข่าวอุบัติเหตุเกิดขึ้นจากกลไกของรถยนต์เอง ซึ่งนับเป็นเรื่องที่เลือกไม่ได้ และอยู่นอกเหนือการควบคุมของผู้ขับขี่

โดยเฉพาะปัญหาเรื่อง “คันเร่งค้าง” ที่เมื่อใดก็ตามที่เกิดปัญหานี้ ความสูญเสียย่อมตามมาทันที บ้างก็เสียทรัพย์ บ้างต้องบาดเจ็บ และบ้างที่ต้องล้มตายจากอุบัติเหตุดังกล่าว

สาเหตุเกิดได้จากหลายประเด็น แต่สาเหตุหลักๆ ที่ทำให้คันเร่งรถยนต์ค้างเกิดจากสองประเด็น คือ เกิดจากตัวผู้ขับเอง และปัญหาจากตัวรถที่อาจจะเกิดปัญหาคันเร่งจมค้าง

สิ่งที่ตามมาเมื่อเกิดคันเร่งค้างแล้ว ผู้ขับมักจะตกใจและไปเหยียบคันเร่งแทนแป้นเบรก

หรือผู้ขับใส่รองเท้าส้นสูงขับรถ แล้วส้นสูงของรองเท้าไปขัดกับคันเร่ง ที่สำคัญ อาจมีสิ่งของไปขัดกับคันเร่งเอาไว้ ทั้งขวดน้ำหรือรองเท้า

กองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) แนะนำวิธีการป้องกันและรับมือกับปัญหาคันเร่งค้างเอาไว้ เหนืออื่นใดเมื่อเกิดเหตุแล้ว สิ่งที่จะทำให้รอดจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นได้ คือ สติ เท่านั้น

1.ตั้งสติให้ดี จากนั้นให้ใส่เกียร์ว่าง และเหยียบเบรกแรงๆ พร้อมทั้งประคองรถเข้าข้างทาง เมื่อรถชะลอลงให้ดับเครื่องได้

2.กรณีที่เบรกไม่ทัน ให้ประคองรถเข้าไปหาจุดที่คิดว่าแข็งแรงที่สุดเพื่อหยุดรถ และให้เลือกฝั่งที่ไม่มีผู้โดยสารหรือคนนั่งข้างเข้าไปกระแทก กรณีนี้หากเป็นลานจอดรถ ให้เลือกเสาของอาคารซึ่งเป็นจุดที่แข็งแรงที่สุด

3.ห้ามดับเครื่องยนต์ทันทีเด็ดขาด เพราะการดับเครื่องยนต์จะทำให้พวงมาลัยล็อกทันที ทำให้ไม่สามารถควบคุมทิศทางของรถได้

และ 4.ห้ามดึงเบรกมือเพื่อช่วยหยุดรถอย่างเด็ดขาด เพราะการดึงเบรกมือจะทำให้รถหมุน และเสียการควบคุม

บก.จร.แนะนำวิธีที่ใช้ได้จริง และเป็นหนทางที่จะทำให้ตัวผู้ขับรอดพ้นจากสถานการณ์คับขันที่อยู่ตรงหน้า เพื่อลดการสูญเสียให้ได้น้อยที่สุด