posttoday

ดีเอสไอชี้สังคมเป็นผู้ตัดสินรับได้-ไม่ได้กับมติมหาเถรฯ

11 กุมภาพันธ์ 2559

ดีเอสไอแจงต้องยอมรับมติมหาเถรสมาคมกรณีให้ พระธัมมชโยไม่ปาราชิก เพราะมีอำนาจโดยตรง ชี้สังคมเป็นผู้ตัดสินรับได้หรือไม่

ดีเอสไอแจงต้องยอมรับมติมหาเถรสมาคมกรณีให้ พระธัมมชโยไม่ปาราชิก เพราะมีอำนาจโดยตรง ชี้สังคมเป็นผู้ตัดสินรับได้หรือไม่

เมื่อวันที่ 11 ก.พ. พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงกรณีที่สำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เตรียมส่งหนังสือชี้แจงให้กับดีเอสไอกรณีลงมติพระธัมมชโยไม่อาบัติปาราชิก ว่า เรื่องนี้เป็นหน้าที่ของมหาเถรสมาคม(มส.) และ สำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องทั้งหมด หากทาง มส.และพศ. ส่งเรื่องมาที่ดีเอสไอก็จะรับฟัง ส่วนผลจะออกมาตามที่ดีเอสไอส่งเรื่องไปหรือไม่นั้น ก็คงต้องยอมรับผลของ มส.และ พศ. เพราะมีอำนาจโดยตรงในการพิจารณา

พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวอีกว่า ท้ายที่สุดแล้วสื่อมวลชนและสังคมจะตัดสินเองได้ว่ารับได้หรือไม่กับมติดังกล่าว  ส่วนกรณีที่มีการร้องเรียน มส.และพศ.เกี่ยวกับความผิดในมาตรา 157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่  หากผู้ร้องเห็นว่า มส.และ พศ. ผิดมาตรา 157 ก็สามารถยื่นเรื่องกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ หากผู้ร้องส่งเรื่องมาที่ดีเอสไอ ทางดีเอสไอก็ต้องส่งเรื่องไปให้กับ ป.ป.ช. พิจารณาอีกเช่นกัน เพราะมีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรง

"ส่วนผู้ที่จะตีความในรายละเอียดที่ทาง พศ.และมส. ส่งมาให้ดีเอสไอเป็นไปตาม พ.ร.บ.คณะสงฆ์หรือไม่ ก็อย่างที่บอกไปตอนแรกเรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับสงฆ์ ดีเอสไอเองก็ไม่มีความเชี่ยวชาญด้านสงฆ์ จึงส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นผู้พิจารณา"อธิบดีดีเอสไอ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้า มส. ส่งหนังสือตอบมาแล้วสังคมยอมรับไม่ได้แล้วดีเอสไอจะทำอย่างไร อธิบดีดีเอสไอ ระบุว่า แต่ละหน่วยงานก็ทำหน้าที่ตัวเอง เรามีหน้าที่ต้องทำแบบนี้และก็ยอมรับกับมติที่ออกมา แต่ถ้าเกิดอะไรขึ้นหน่วยที่เกี่ยวข้องก็ต้องรับผิดชอบเอง

ถามต่อว่า กรณีที่ผู้ตรวจการแผ่นดินระบุว่าตามที่อัยการถอนฟ้องพระธัมมชโยใหม่และให้เริ่มฟ้องใหม่ พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ทราบรายละเอียดเลย แต่คดีนี้เมื่อมีการฟ้องแล้วจะมาฟ้องใหม่นั้น มองว่าเป็นการฟ้องซ้ำ ยกเว้นจะมีเหตุและเรื่องใหม่ก็สามารถฟ้องใหม่ได้

ด้าน พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า เรื่องนี้อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ชี้แจงหลายครั้งแล้วว่า เมื่อมีผู้ร้องมาที่ดีเอสไอกี่ประเด็นก็ตาม เราก็นำคำร้องมาพิจารณาดูว่าหน่วยงานใดเป็นผู้รับผิดชอบ จากนั้น เราก็ทำหนังสือแจ้งไปยังหน่วยงานนั้นๆ ซึ่งเรื่องนี้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ก็เป็นหนึ่งในหน่วยงานที่รับผิดชอบตามคำร้อง จึงทำหนังสือแจ้งไป เพื่อให้เป็นผู้ดำเนินการและให้เขาตอบมา

พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวอีกว่า จากนั้นก็เอาคำตอบที่ทางพศ.ตอบมานั้น เพราะเรื่องทั้งหมดไม่ใช่หน้าที่ของดีเอสไอที่จะจัดการ แต่บางเรื่องเราจัดการก็ทำ บางเรื่องไม่ใช่ แต่เป็นการร้องมาที่เรา เราก็ต้องให้ความร่วมมือกับผู้ร้องโดยการนำข้อมูลจากหน่วยงานอื่นนอกกระทรวงเรามาตอบ ดังนั้น กรณีนี้ เมื่อ พศ. ทำหนังสือตอบกลับมา ทางอธิบดีดีเอสไอก็จะทำหนังสือถึงผู้ร้องไป ส่วนจะพอใจในคำตอบหรือไม่นั้น ก็เป็นเรื่องที่เขาต้องไปดำเนินการกันเอง เพราะเราเปรียบเสมือนเป็นคนกลาง อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกหลายประเด็นที่ยังไม่แล้วเสร็จ ซึ่งก็ต้องทำต่อไป