posttoday

สพฉ.เตือนจุดประทัดตรุษจีนแนะวิธีปฐมพยาบาล

06 กุมภาพันธ์ 2559

สพฉ.แนะเทศกาลตรุษจีนนี้ควรปรุงอาหารไหว้เจ้าให้สุกสะอาดก่อนนำมาบริโภค ระวังจุดประทัดอาจทำให้เกิดอันตรายกับร่างกาย

สพฉ.แนะเทศกาลตรุษจีนนี้ควรปรุงอาหารไหว้เจ้าให้สุกสะอาดก่อนนำมาบริโภค ระวังจุดประทัดอาจทำให้เกิดอันตรายกับร่างกาย

นพ.อนุชา เศรษฐเสถียร เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติกล่าวว่า สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติได้จัดเก็บสถิติการเจ็บป่วยฉุกเฉินของประชาชนในช่วงเทศกาลตรุษจีนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีพ.ศ. 2558 พบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บจากอาการ ไฟไหม้  ไฟลวก เหตุความร้อนจากสารเคมี และไฟฟ้าช๊อตจำนวนมากถึง  185  คน

นอกจากนั้นแล้วแล้วเรายังพบสถิติของผู้ป่วยฉุกเฉินจากอาการปวดท้องเฉียบพลันในช่วงเดือนกุมภาพันธ์นี้มากกว่า  8,595 คนด้วย  ดังนั้น ในช่วงตรุษจีนปีนี้ประชาชนจึงควรระมัดระวังตนเองให้มากๆ โดยเฉพาะการรับประทานอาหารที่เสร็จสิ้นจากการไหว้เจ้า ซึ่งอาหารบางอย่างเมื่อสัมผัสกับอากาศภายนอกเป็นระยะเวลานานโดยไม่มีภาชนะที่ปิดไว้ให้มิดชิดอาจเสี่ยงต่อการปนเปื้อนเชื้อโรคได้  โดยผู้ป่วยด้วยอาการอาหารเป็นพิษมีดังนี้  ท้องเสีย อาจเป็นน้ำ มูก หรือ มูกเลือด  ปวดท้องอาจจะปวดมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค มักเป็นการปวดบิดสลับกับมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน  นอกจากนี้ผู้ป่วยบางรายยังมีอาการไข้สูงด้วย

ทั้งนี้ในขณะที่เราปวดท้อง หรือ คลื่นไส้อาเจียน ไม่ควรกินอาหาร หรือ ดื่มน้ำเพราะอาการจะรุนแรงขึ้น   ที่สำคัญคือไม่ควรกินยาหยุดถ่ายท้อง เพราะการท้องเสียจะช่วยขับเชื้อและสารพิษออกจากร่างกาย ควรจิบน้ำ  หรือ  ดื่มเกลือแร่ บ่อยๆ เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ และควรรีบพบแพทย์ภายใน 24 ชั่วโมงเพื่อรักษาตนเองต่อไป

เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติกล่าวเพิ่มเติมถึงกรณีของมีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากอาการ ไฟไหม้  ไฟลวก เหตุความร้อนจากสารเคมีซึ่งหนึ่งในนั้นคือสารเคมีจากการจุดประทัดว่า  สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินเคยออกคำเตือนในทุกๆ ปีว่า การจุดประทัดสำหรับการไหว้เจ้านั้นเราไม่ควรจุดครั้งละจำนวนมาก เพราะแรงระเบิดจากประทัดอาจทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย  โดยเฉพาะการจุดประทัดที่มีสายชนวนสั้น เมื่อจุดไม่ติดก็ไม่ควรจุดซ้ำ และที่สำคัญที่สุดคือห้ามโยนประทัดใส่กลุ่มคน

ทั้งนี้ ประทัด พลุ และดอกไม้ไฟ เป็นวัตถุอันตรายที่จัดอยู่ในหมวดหมู่ของวัตถุระเบิดชนิดหนึ่ง ซึ่งอาจเกิดอันตรายต่อร่างกาย 3 ทาง คือ  1.ทางผิวหนัง คือเกิดแผลไหม้จากแรงระเบิด  2.ทางนิ้วมือ คืออาจทำให้นิ้วมือ หรืออวัยวะขาด เนื่องจากแรงระเบิด และ 3.ทางตา ซึ่งเป็นอวัยวะที่บอบบางที่สุด คืออาจทำให้ตาดำไหม้ ขุ่นมัว เลือดออกช่องหน้าม่านตา และอาจทำให้ตาบอดถาวรได้

สำหรับการปฐมพยาบาลผู้ป่วยที่นิ้วหรืออวัยวะใดอวัยวะหนึ่งขาดนั้น ให้รีบห้ามเลือดบริเวณที่อวัยวะขาด โดยใช้ผ้าสะอาดปิดบาดแผล พันแผลบริเวณเหนือแผลให้แน่นเพื่อป้องกันเลือดออก ทั้งนี้ไม่ควรใช้เชือกหรือสายรัดเพราะจะทำให้รัดเส้นประสาทหลอดเลือดเสียได้  นอกจากนี้ควรสังเกตอาการผู้ที่ได้รับบาดเจ็บอย่างใกล้ชิด ควรงดอาหารทางปาก และจิบน้ำได้เล็กน้อย เพราะอาจจะต้องรับการผ่าตัดด่วน ส่วนวิธีการเก็บรักษาอวัยวะส่วนที่ขาดคือ ให้นำสิ่งสกปรกออกจากส่วนที่ขาด ล้างน้ำสะอาด ใส่ถุงพลาสติก ปิดปากถุงให้แน่น แล้วนำไปใส่ในน้ำแข็ง โดยอวัยวะที่มีกล้ามเนื้อมาก ๆ เช่น แขน ขา ต้องได้รับการผ่าตัดต่อเส้นเลือดให้เร็วที่สุด ภายใน 6 ชม. ส่วนบริเวณที่ไม่มีกล้ามเนื้อ เช่น นิ้ว สามารถเก็บไว้ได้ 12 – 18 ชม. ส่วนการบาดเจ็บทางตาให้รีบล้างตาด้วยน้ำสะอาดในปริมาณมากทันที  และหาก ผู้ป่วยไม่รู้สึกตัว หรือกรณีฉุกเฉิน  ให้รีบโทรแจ้งขอความช่วยเหลือผ่านสายด่วน 1669 เพื่อขอความช่วยเหลือทางการแพทย์โดย ซึ่งจะมีทีมแพทย์ฉุกเฉิน และทีมกู้ชีพคอยให้ความช่วยเหลือและให้คำปรึกษาตลอด 24 ชั่วโมง.